หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: ก่อนจะมู รู้มั้ย ? ความเชื่อเรื่องตรุษจีนเป็นมายังไง ไหว้แบบไหนถึงจะเฮง !  (อ่าน 623 ครั้ง)

promotion

  • โจรสลัดจอมลุย / โคโนฮะกลุ่ม 7
  • *
  • กระทู้: 2342



ปีใหม่สากลได้ผ่านพ้นกันไปแล้ว หลังจากนี้ก็ถึงเวลาของปีใหม่จีนกันบ้าง สำหรับปีใหม่จีนนั้นหลายคนมักจะคุ้นเคยกันในชื่อ วันตรุษจีน  ซึ่งปี 2565 นี้ วันตรุษจีนได้ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 แต่พี่ โปร จะบอกว่าตามธรรมเนียมปฏิบัติของคนจีน รวมถึงคนไทยเชื้อสายจีนบางบ้าน ได้มีการเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนเป็นอาทิตย์ !

นั่นแปลว่าการมาของวันตรุษจีนไม่ใช่เอะอะอะไรจะไหว้ก็ได้ แต่มันต้องมีการเตรียมการ ข้อปฏิบัติ กฏ รวมถึงข้อห้ามต่าง ๆ ที่ต้องทำกันด้วย สำหรับความเป็นมาของวันตรุษจีนจะเป็นยังไง คนไทยแท้ที่สนใจอยากจะไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับเค้าบ้างจะต้องเริ่มต้นที่ตรงไหน ปันโปรเราไม่พลาดที่จะนำข้อมูลสำคัญ ๆ เกี่ยวกับวันสำคัญอย่าง 'วันตรุษจีน' มาบอกต่อทุกคนกันแล้ว !









ตรุษจีน เริ่มต้นจากไหน มีความสำคัญยังไง ?

การปักจุดเริ่มต้นของวันตรุษจีนนั้นเป็นอะไรที่กำกวมมากถึงมากที่สุด  เพราะว่าวันตรุษจีนนั้นไม่ใช่วันที่สามารถแปะโป้งแล้วบอกว่าวันนี้คือวันตรุษจีนได้ แต่มันต้องอาศัยการดูวันที่ควบคู่ไปกับการอ่านปฏิทินจันทรคติไปด้วย นั่นเลยแปลได้ว่า ในแต่ละปี วันตรุษจีนอาจจะไม่ใช่วันเดียวกันกับปีก่อนหน้าเสมอไป

แม้กระทั่งต้นกำเนิดของวันนี้ว่าจริง ๆ แล้วมันถูกกำหนดขึ้นมาตั้งแต่สมัยไหน ก็ยังไม่สามารถให้ข้อมูลที่แน่ชัดได้ แต่ว่ากันว่าจุดเริ่มต้นของตรุษจีนได้เกิดขึ้นมานานมากกว่า 3,500 ปีแล้ว และเมื่อมันผ่านมานาน ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่ข้อมูลเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของมันอาจจะสูญหาย หรือคลาดเคลื่อนกันไปบ้าง ดังนั้นข้อมูลที่ตกมาถึงพวกเราในตอนนี้ก็จะเป็นข้อมูลที่อาศัยการพูดถึงต่อ ๆ กันมา อาจจะมี หรืออาจจะไม่มีจริงก็ได้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้ทุกคนสับสน พี่ โปรโมชั่น จึงขอระบุกว้าง ๆ ว่ามันได้เกิดขึ้นมานานมากกว่า 3,500 ปีแทนก็แล้วกัน

ซึ่งความสำคัญของวันนี้ ที่ยึดถือปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยก่อน ก็คือ การไหว้เทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้บรรพบุรุษ รวมถึงการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ผลผลิตไม่ว่าจะเป็นการเกษตร หรือปศุสัตว์ทั้งหลายงอกงาม  เพราะสังคมจีนสมัยก่อนมีอาชีพทำสวน รวมถึงเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก ดังนั้นเมื่อถึงวันสำคัญที ก็จะมีการไหว้ขอพร ให้เทพเจ้าช่วยประทานพรให้การประกอบอาชีพของพวกเค้ามีแต่เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป

และอย่างที่พี่ promotion บอกว่าวันตรุษจีนของแต่ละปีนั้นไม่เหมือนกัน แต่เอาเป็นว่าโดยปกติแล้วมักจะคาบเกี่ยวตั้งแต่ช่วงปลายมกราคม - กลางกุมภาพันธ์ ถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ นับเป็นวันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติ อย่างปี 2565 นี้ก็ได้ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นั่นเอง









สงสัยกันไหม ทำไมตรุษจีนถึงต้องสีแดง ?

อันที่จริงประเด็นเรื่องสีแดงในวันตรุษจีนนั้นมีหลากหลายที่มามาก ๆ สำหรับตำนานที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุด น่าจะเป็นตำนานของ ปีศาจเหนียน สัตว์ร้ายที่คอยออกมากัดกินผลผลิต ปศุสัตว์ หรือแม้กระทั่งคนในช่วงก่อนจะถึงวันปีใหม่ 1 วัน

โดยลักษณะของเหนียนนั้น จะมีส่วนหัวที่ยาว มีเขาแหลม ปกติจะอาศัยอยู่ใต้ทะเลลึก แต่จะขึ้นมาบนฝั่งปีละ 1 ครั้ง ซึ่งเมื่อก่อนนั้นพอจะเข้าสู่ช่วงปีใหม่ที ผู้คนจะอพยพหนีกันไปอยู่บนเขาที่ห่างไกล เพราะกลัวว่าเหนียนจะทำร้ายพวกเค้าเข้า จนกระทั่งมีชายชราคนหนึ่งเดินทางมาที่หมู่บ้านแห่งนั้น แล้วได้บอกคนในหมู่บ้านถึงวิธีการขับไล่เหนียน เพื่อที่ว่าทุกคนจะได้ไม่ลำบากในการใช้ชีวิตแบบนี้อีก โดยสิ่งที่ชายชราแนะนำนั้นได้แก่ เสียงดัง และ สีแดง  ซึ่งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เหนียนเกลียด

เมื่อรู้ดังนั้นชาวบ้านเลยจัดการหาโคมไฟสีแดงมาแขวนไว้ตามประตู จุดเทียนสีแดงในบ้าน สวมเสื้อผ้าสีแดง รวมถึงนำม้วนคัมภีร์สีแดงมาแขวนไว้ตามหน้าต่าง ส่วนเรื่องเสียงดัง ชาวบ้านได้นำไม้ไผ่มาเผา ซึ่งเสียงของไม้ไผ่ที่ถูกเผาจะให้เสียงที่ดังเหมือนประทัดที่เราคุ้นเคยกันในตอนนี้ ซึ่งเสียงดังและสีแดงได้ทำให้เหนียนตกใจ และดูเหมือนว่าวิธีการนี้จะได้ผลจริง เพราะตั้งแต่วันนั้นเหนียนก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย ดังนั้น สีแดง เลยกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี การขับไล่สิ่งเลวร้าย ก่อนถูกนำมาใช้ในวันตรุษจีนไปโดยปริยาย ทางด้านพลุเองก็เช่นกัน









คนไทยอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่คนจีนเค้าให้ความสำคัญกับวันนี้มาก !

นอกจากคนจีนแล้ว คนไทยเชื้อสายจีน หรือบริษัทสัญชาติจีนในไทยบางแห่งอาจจะมีประกาศหยุดในช่วงตรุษจีนนี้ด้วย อย่างที่ประเทศจีนบ้านเค้ายกให้ช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้เป็น promotions วันหยุด และที่ใช้คำว่าช่วงก็เพราะว่า บ้านเค้าไม่ได้หยุดกันแค่วันสองวันนะ แต่หยุดกันเป็นอาทิตย์ ! เหมือนอย่างที่เราเคยได้ยินกันมาไม่ว่าจะเป็น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และสำหรับปี 2565 นี้ คนจีนเค้าจะหยุดกันตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2565 - 6 กุมภาพันธ์ 2565 กันเลย

และนอกจากวันหยุดที่ได้บอกไป จริง ๆ แล้วคนจีนเค้า มีการวางแผนล่วงหน้าสำหรับวันตรุษจีนตั้งแต่สัปดาห์ก่อนจะถึงวันตรุษจีนกันเลย  โดยช่วงสัปดาห์ก่อนจะถึง หลายบ้านก็จะเริ่มมีการทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถู ทิ้งข้าวของที่ไม่จำเป็น มีการซื้อของเข้าบ้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เสื้อผ้า ของใช้ต่าง ๆ ให้พร้อมก่อนจะถึงวันไหว้






ทำไมต้องทำความสะอาดบ้าน ?

เชื่อกันว่าการทำความสะอาดบ้าน จะเป็นการปัดเอาสิ่งเก่า ๆ ที่ไม่ดี หรือความชั่วร้ายออกไป เพื่อต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง







และก่อนจะถึงวันตรุษจีน 1 วัน (ปีนี้ตรงกับวันที่ 31 มกราคม 2565)  จะเริ่มมีการประดับตกแต่งบริเวณบ้านด้วย ตุ้ยเหลียน (ป้ายคำอวยพร) มีการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บรรพบุรุษ วิญญาณไม่มีญาติ ตั้งแต่ในช่วงเช้า - บ่าย มีการรับประทานอาหารค่ำกับครอบครัว และเมื่อรับประทานอาหารเสร็จก็จะมีการแจกอั่งเปาให้เด็ก ๆ ก่อนจะจบลงที่การไหว้ขอพรเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยก่อนจะเข้าสู่วันปีใหม่อย่างเป็นทางการ

ส่วนหลังวันปีใหม่เป็นต้นไป ก็จะมีการเดินทางกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้อง แวะเวียนหาเพื่อนฝูง รวมถึงทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงวันตรุษจีน เหมือนที่เราเคยได้ยินกันว่าวันเที่ยวนั่นแหละ และหลังจากเสร็จสิ้นตามกำหนดการทุกคนก็จะกลับเข้าสู่โหมดใช้ชีวิตตามปกติกันต่อ ใครจะเรียน จะทำงาน หรือจะทำอะไรต่อมิอะไรก็ทำกันต่อไป





Gica Antigen Test Cassette ATK ชุดตรวจ 2in1
[ตรวจได้ทั้ง น้ำลาย/แยงจมูก] ชุดล่ะ 70 บาท
ยก 10 SET คลิ๊กเลย!!
V
V
V



จำนวนจำกัด





อั่งเปาต้องมอบให้ใครบ้าง ?

จริง ๆ แล้วอั่งเปาจะถูกมอบให้กับเด็ก รวมถึงคนวัยหนุ่มสาวที่ยังไม่ได้แต่งงาน ซึ่งเมื่อก่อนมักจะใส่เป็นเหรียญเงินจำนวน 8 เหรียญ (แทนนางฟ้า 8 องค์) ก่อนจะนำไปใส่ไว้ในซองสีแดง แล้วนำไปมอบให้เด็ก ๆ และที่ต้องเป็นซองแดงก็เพราะว่าสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของวันตรุษจีน และเป็นสัญลักษณ์ของการขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้ออกไปจากเด็ก ๆ ด้วย







'ของไหว้มงคล' สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในวันตรุษจีน


เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่เลี่ยงกันไม่ได้ เพราะคนจีนเค้าให้ความสำคัญกับการเลือกของไหว้มาก ๆ อย่างว่าแหละเพราะวันนี้เป็นวันสำคัญของบ้านเค้าจริง ๆ แล้วยิ่งเป็นการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสียด้วย ดังนั้นก่อนจะไปคาดหวัง หรือขอพรอะไร เราเองก็ต้องตั้งใจเลือกของมาไหว้ให้ดี ที่เป็นการเสริมสิริมงคลให้กับตัวเองกันซะก่อน

แต่โดยปกติแล้วถ้ายึดตามสมัยก่อน ของไหว้เค้าจะไม่ได้อลังการเหมือนอย่างตอนนี้นะ คือเน้นเท่าที่หาได้ แต่จะใส่ความตั้งใจไปกับการเลือกของไหว้แทน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกผลไม้ ก็ต้องเลือกลูกที่สวย ๆ เนื้อสัตว์ก็จะต้องเป็นส่วนที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งตัดภาพมาที่ปัจจุบัน สมัยนี้คนอาจจะเน้นไปที่การจัดหนักจัดเต็ม มีเท่าไหร่ใส่ไม่ยั้ง แต่ทว่าจริง ๆ แล้ว กฏตายตัวเกี่ยวกับของไหว้นั้น แทบจะไม่มีอะไรที่เหมือนกันสักตำรา  มิหนำซ้ำตอนนี้หลายคนก็เปลี่ยนมาไหว้ในรูปแบบมินิมอลกันมากขึ้น ดังนั้นส่วนตัวเราเลยมองว่าเอาตามสะดวกกันดีกว่า

แต่สำหรับใครที่อยากไหว้แบบจริง ๆ จัง ๆ แบบที่คนจีน รวมถึงคนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่เค้าไหว้กัน ของไหว้ ก็จะมีดังนี้



เนื้อสัตว์ 3 หรือ 5 อย่าง
อาหารแห้ง หรืออาหารเจ
ผลไม้มงคล
ขนมมงคล
กระดาษเงิน กระดาษทอง
ถ้วยน้ำชา 5 ถ้วย
ถ้วยน้ำดื่ม
อุปกรณ์สำหรับการไหว้อื่น ๆ ได้แก่ กระถางธูป, เชิงเทียน 1 คู่, โถกำยาน, แจกัน 1 คู่, ธูป 3 หรือ 5 ดอก (ขึ้นอยู่กับการไหว้) และเทียนสีแดง 1 คู่






อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม คลิ๊กเลย >>>
เทศกาลตรุษจีน








ส่องความหมายของไหว้มงคล


หมวด : เนื้อสัตว์

ปลา หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง
เป็ด หมายถึง ความสะอาด บริสุทธิ์ และความสามารถที่หลากหลาย
ไก่ หมายถึง ความก้าวหน้า ชื่อเสียง
หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้ตลอดปี
ปลาหมึก หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง เหลือกิน เหลือใช้


หมวด : ผลไม้

ส้ม หมายถึง ความเป็นสิริมงคล เจริญรุ่งเรือง
สาลี่ หมายถึง โชคลาภ (ไม่นิยมนำมาไหว้บรรพบุรุษ หรือวิญญาณไร้ญาติ)
องุ่น หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มพูน
กล้วย หมายถึง โชคลาภ ลูกดก
แอปเปิ้ล หมายถึง สันติสุข เสรีภาพ ความปรองดอง


หมวด : ขนม

ขนมเข่ง หมายถึง ความราบรื่น หวานชื่น
ขนมเทียน หมายถึง ความราบรื่น
ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง เพิ่มพูน
ขนมสาลี่ หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มพูน
ขนมถั่วตัด หมายถึง แท่งเงิน ความร่ำรวย
ขนมจันอับ หมายถึง ความสุขตลอดไป ความหวานที่เพิ่มพูน


หมวด : ของแห้ง และอาหารเจ

บะหมี่ / หมี่ซั่ว หมายถึง อายุที่ยืนยาว
เม็ดบัว หมายถึง การมีลูกชายจำนวนมาก
สาหร่ายสีดำ หมายถึง ความมั่งคั่ง ร่ำรวย









เปิดขั้นตอนการไหว้ตรุษจีน ประจำปี 2565

สำหรับฤกษ์ในการไหว้ อ้างอิงจาก อ.คฑา ชินบัญชร ประจำปี 2565 นี้ได้แก่ คืนวันจันทร์ที่ 31 มกราคม ตั้งแต่เวลา 23.00 - 01.00 น. เหมาะสำหรับการไหว้ขอพรเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย เพื่อขอโชคลาภ รวมถึงกระทำการมงคลต่าง ๆ

ส่วนขั้นตอนในการไหว้นั้น จริง ๆ แล้วไม่ได้มีระเบียบแบบแผนอะไรมากนัก ขึ้นอยู่กับความสะดวกใจของแต่ละครอบครัวมากกว่า ซึ่งถ้าจะเอาให้เป๊ะ ๆ จริง ๆ อย่างที่เราบอกไปก่อนหน้านี้ว่า ช่วงเวลาในการไหว้มีหลายรอบมาก ๆ เริ่มตั้งแต่ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในช่วงเช้า  ไหว้บรรพบุรุษในช่วงสาย  ไหว้วิญญาณไร้ญาติในช่วงบ่าย รวมถึงไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยในช่วงดึก นั่นแปลว่าของไหว้ก็จะต้องเตรียมเป็นชุด ๆ ชุดนึงไหว้รอบนึง หรืออย่างบางครอบครัวไม่ซีเรียสมาก ก็จะอาศัยไหว้รอบเดียวพอ อันนี้ก็ถือว่าไม่ผิด ส่วนดีเทลในการตั้งโต๊ะวางของไหว้ รวมถึงวิธีการไหว้ต่าง ๆ สามารถเลื่อนลงไปอ่านต่อกันได้เลย~


ตั้งโต๊ะไหว้ สำหรับใครที่จะไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยควรหันหน้าโต๊ะไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
เตรียมของไหว้ให้ครบ (ถ้าไหว้หลายรอบ อย่าลืมเตรียมธูปให้ตรงกับจุดประสงค์ของการไหว้รอบนั้น ๆ ด้วย)
เริ่มต้นจัดโต๊ะไหว้ โดยเริ่มจากวางกระถางธูปไว้ตรงกลางด้านในสุด อยู่บริเวณหน้าแท่นบูชา
วางเชิงเทียนขนาบซ้ายขวา กระถางธูป
วางโถกำยานหน้า กระถางธูป
วางแจกันขนาบซ้ายขวา ของโถกำยาน แต่อย่าให้บังเชิงเทียน
วางถ้วยน้ำดื่มหน้า โถกำยาน
วางถ้วยน้ำชา 5 ถ้วย บริเวณ ด้านหน้า ถ้วยน้ำดื่ม
วางอาหารคาว หรือกับข้าวหน้า ถ้วยน้ำชา
วางเนื้อสัตว์ด้านหน้า เครื่องคาว
วางผลไม้ด้านหน้า เนื้อสัตว์
วางกระดาษเงิน กระดาษทองด้านหน้า ผลไม้ เป็นอันเสร็จ



ในส่วนของวิธีการไหว้นั้นก็สามารถจุดธูปแล้วไหว้กันได้เลย อย่างบางครอบครัวจะให้หัวหน้าครอบครัวเป็นผู้จุดธูปไหว้คนเดียวก็ได้ ส่วนใครที่ไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย สามารถสวดบทด้านล่างนี้เพิ่มเติมได้ เพื่อเป็นการขอพรเรื่องโชคลาภ แต่มีข้อแม้ว่าผู้ที่จะไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย ที่เกิดปีมะเมียควรไหว้หลังจากเวลา 01.00 น. เป็นต้นไปจะดีกว่า



โอม ชัมภาลา จาเลนไน เยโซฮา

(สวด  9 จบ หรือ 12 จบ)




เมื่อไหว้เสร็จแล้วให้รอธูปหมดแล้วลาของไหว้มาทานต่อได้ สำหรับเทียนสีแดงสามารถนำมาเก็บไว้บนหิ้งพระเพื่อความเป็นสิริมงคลก็ได้เช่นกัน เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธีจ้า










ไม่อยากบ้ง 'อย่าหาทำ' ข้อห้ามต่าง ๆ ในวันตรุษจีน

หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง สำหรับข้อห้ามต่าง ๆ ที่ไม่ควรทำในวันตรุษจีน ไหน ที่พอจะนึกออกมีข้อห้ามเรื่องอะไรอีกบ้าง อย่างเราที่เคยได้ยินมาบ่อย ๆ คือห้ามพูดคำหยาบ แต่เราควรจะพูดถึงเรื่องดี ๆ สิ่งดี ๆ ในวันตรุษจีนแทน ซึ่งข้อห้ามที่ว่านี้เป็นเพียงเสี้ยวเล็ก ๆ จากบรรดาข้อห้ามทั้งหมด และสำหรับข้อห้ามที่นิยมนำมาใช้ในการสอนลูกหลาน รวมถึงนำปฏิบัติเองในวันนี้ก็ได้แก่

ไม่สระผม และตัดผมในวันตรุษจีน  เพราะมันจะนำพาสิ่งดี ๆ นำพาความโชคดีให้หายไป แนะนำให้สระหรือตัดให้เรียบร้อยก่อนจะถึงวันตรุษจีน ถ้าเป็นอย่างหลังจะเป็นการมงคลกว่าจ้า

ไม่เย็บผ้า หรือปักผ้าในวันตรุษจีน ไม่รู้เพื่อน ๆ เคยได้ยินคำว่า 'ยิ่งทำยิ่งได้' กันไหม ว่ากันว่าใครที่เย็บผ้าหรือปักผ้าในวันตรุษจีน จะทำให้ปีนั้นตลอดทั้งปีเป็นปีที่ยากลำบาก ถ้าเป็นสมัยก่อนเค้าจะเปรียบเทียบว่า ปีนั้นจะมีผ้ามาให้ปักให้เย็บเยอะ อะไรเทือกนี้

ไม่พูดคำหยาบ หรือสาปแช่งผู้อื่น เพราะมันจะเข้าตัวเอง ซึ่งคำหยาบที่ว่านี้มีอะไรบ้าง ก็ได้แก่คำที่เกี่ยวข้องกับความตาย การเจ็บป่วย เข้าโรงพยาบาล ผี ความจน ที่มันสื่อความหมายในแง่ลบ หรือถ้าจำเป็นต้องพูดจริง ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงไปใช้คำที่สละสลวยกว่าภาษาปากแทน หรือเลี่ยงไปใช้คำที่ให้ความหมายไปในทางอ้อม แต่ไม่ได้พูดตรง ๆ

ไม่ซักผ้าในวันตรุษจีนและหลังวันตรุษจีน 1 วัน โดยชาวจีนสมัยก่อนเชื่อกันว่า วันที่สองถัดจากวันปีใหม่จีนนั้นเป็นวันเกิดของเทพเจ้าแห่งน้ำ ดังนั้นถ้าหากเราซักผ้า หรือมีการเทน้ำหลังจากซักผ้าออกไปจะเป็นการไม่ให้เกียรติเทพเจ้า อีกนัยนึงก็ว่า การเทน้ำจะเหมือนเป็นการเทเอาความมั่งคั่งออกไป ดังนั้นสายขยันซักทั้งหลาย พักก่อนนนนน 

ไม่กินข้าวต้ม หรือโจ๊กเป็นมื้อเช้าในวันตรุษจีน อันนี้ความรู้ใหม่ของทางเรามาก ๆ สำหรับความเชื่อเรื่องนี้ว่ากันว่าในสมัยก่อน อาหารประเภทข้าวต้ม หรือโจ๊กเนี่ยเป็นอาหารของคนยากจน เพราะมันไม่ต้องใช้วัตถุดิบอะไรมาก แค่ต้มข้าวกับน้ำก็คือจบ ดังนั้นคนจีนเลยเชื่อกันว่าถ้าเรากินอาหารประเภทนี้ในเช้าวันขึ้นปีใหม่ จะเป็นการอวยพรตัวเองให้มีแต่จน นอกจากอาหารประเภทข้าวต้มแล้วยังรวมไปถึงเนื้อสัตว์ด้วยนะ เพราะการกินเนื้อสัตว์เหมือนเป็นการทำบาปมากกว่าได้บุญ ดังนั้นมื้อเช้าของวันตรุษจีนแนะนำว่าควรทานอาหารประเภทที่ไม่มีเนื้อสัตว์ และไม่ควรเป็นข้าวต้มจะดีกว่า

ไม่กวาดบ้านในวันตรุษจีน สายรักสะอาดแนะนำให้กวาดตั้งแต่ก่อนเข้าวันตรุษจีนจะเป็นการดีที่สุด ไม่ควรกวาดในวันตรุษจีนเพราะนั่นจะเหมือนกับว่าเราได้กวาดเอาเรื่องดี ๆ สิ่งดี ๆ ออกไปนั่นเอง






ตรุษจีนมักจะมาคู่กันกับ 'ปีชง'

ควบสองกันไปเลยจ้างานนี้ไหน ๆ ก็เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ทั้งที แน่นอนว่าจะต้องมีปีชงมาเกี่ยวข้องด้วยแบบปฏิเสธไม่ได้ โดยความสำคัญของปีชงนั้นมีความเกี่ยวข้องกับวันตรุษจีนก็เพราะว่า องค์ไท้ส่วยเอี๊ย เป็นเทพที่เกี่ยวข้องกับการเกิดของคนจีน และมีความสำคัญมาก ๆ ในการกำหนดดวงชะตาของคนที่เกิดในปีนักษัตรต่าง ๆ ซึ่งปี 2565 นี้ มีอยู่ 4 ราศีด้วยกันที่จะได้รับแจ็คพอตจากปีชงไปเต็ม ๆ ได้แก่ ปีวอก, ปีขาล, ปีมะเส็ง และปีกุน โดยเราได้เคยทำคอนเทนต์แบบละเอียดยิบเกี่ยวกับปีชงไว้แล้วตามนี้ สามารถคลิกแล้วเข้าไปอ่านต่อกันได้เลย






ก่อนจะมู รู้มั้ย ? "ปีชงคืออะไร" มาจากไหน แล้วทำไมถึงได้ชง !
" ถึงปีชง แต่มงก็ลงได้ " เปิดพิกัดแก้ชง พร้อมไอเทมเสริมดวงรับปี 65


และสำหรับปี 2565 นี้ จะตรงกับปีขาล หรือเสือทอง ซึ่งตามตำราของจีนได้มีการทำนายดวงชะตาของผู้ที่เกิดแต่ละปีนักษัตรไว้ดังนี้ คำเตือน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เพราะดวงชะตาเป็นเรื่องส่วนบุคคล อาจจะตรงหรืออาจจะไม่ตรงกับใครก็ได้ ไม่ควรงมงาย แต่ให้นำมาเป็นไกด์ไลน์ชีวิตตัวเองแทนน้า



ภาพรวมดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีชวด ประจำปี 2565


เป็นปีที่โชคลาภจะมั่นคงกว่าปีที่ผ่านมา

แม้ว่าจะไม่ได้มีเข้ามามาก แต่ทุกอย่างจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น



ภาพรวมดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีฉลู ประจำปี 2565


โชคลาภในปีนี้จะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

มีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ



ภาพรวมดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีขาล ประจำปี 2565


หลาย ๆ อย่างอาจไม่เป็นตามที่หวัง แนะนำให้ไปแก้ชงกับองค์ไท้ส่วยเอี๊ย

จะได้เปลี่ยนจากหนักให้เป็นเบาได้



ภาพรวมดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีเถาะ ประจำปี 2565


จะเกิดความผิดหวังบางอย่างเกิดขึ้น

แต่ปัญหานั้นไม่ได้ใหญ่โตอะไร ไม่ต้องเก็บมากังวล

ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน



ภาพรวมดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีมะโรง ประจำปี 2565


ชีวิตจะดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะเรื่องหน้าที่การงาน

ขอแค่ตั้งใจเข้าไว้ รับรองว่าผลลัพธ์ของมันจะทำให้คุณหายเหนื่อย !



ภาพรวมดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีมะเส็ง ประจำปี 2565


อาจจะมีเรื่องเข้ามาทำให้คุณผิดหวัง หรือลำบาก

แต่ท้ายที่สุดเมื่อทุกอย่างคลี่คลาย คุณจะผ่านมันไปได้

ขอเพียงแค่อดทนและมีสติให้มาก ๆ



ภาพรวมดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีมะเมีย ประจำปี 2565


อาชีพการงานจะปังมาก ตราบใดที่เรามีไหวพริบให้เป็น หาทางหนีทีไล่เก่ง

แนะนำว่าหากมีงานที่ให้คุณเสนอไอเดีย หรือนำเสนอผลงาน

ก็จัดไปอย่าให้เสีย เพราะเป็นโอกาสดีที่จะทำให้คนรอบข้างได้เห็นของในตัวคุณ !



ภาพรวมดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีมะแม ประจำปี 2565


หลายอย่างในชีวิตเป็นไปด้วยความราบรื่น

มีโอกาสเติบโตในสายงาน จะมีกิจกรรมหรือแพลนเที่ยวเข้ามาตลอดทั้งปี

ได้หายใจสะดวกสักที !



ภาพรวมดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีวอก ประจำปี 2565


ในปีนี้คุณจะได้พบกับเรื่องที่ไม่คาดฝันมากมาย

ต่อให้ราบรื่นในตอนต้น แต่ก็จะมีอะไรบางอย่างเข้ามาขัดทำให้สะดุด

ขอให้คิดว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไป การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เลวร้ายเสมอไปหรอก



ภาพรวมดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีระกา ประจำปี 2565


มีโชคเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างในชีวิตมีทิศทางที่ดีขึ้น

มีโอกาสใหม่ ๆ รวมถึงช่องทางให้ได้แสดงความสามารถมากขึ้น



ภาพรวมดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีจอ ประจำปี 2565


โชคดีของคุณจะมีเข้ามามากกว่าปีที่แล้ว

คุณจะได้รับความช่วยเหลือทั้งทางตรงและทางอ้อมจากหัวหน้า ผู้บังคับบัญชา

มีความก้าวหน้าในสายงานอาชีพ เป็นที่รักของคนรอบข้าง



ภาพรวมดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีกุน ประจำปี 2565


แม้ว่าจะมีเรื่องเข้ามาทำให้หงุดหงิดใจไปบ้าง แต่ผลสุดท้ายมันจะดี

จะมีสิ่งที่ทำให้คุณแฮปปี้มากเกิดขึ้น

เป็นไปได้ทั้งเรื่องรัก ครอบครัว หรืออสังหาริมทรัพย์








ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเกี่ยวกับวันตรุษจีนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อ ต้นกำเนิด ของไหว้มงคล ขั้นตอนการไหว้ ก่อนจะปิดท้ายเอาใจสายมูด้วยการรีแคปดวงประจำปี 2565 ของแต่ละปีนักษัตรให้อ่านกันแบบเบา ๆ เพื่อน ๆ คนไหนที่มีแพลนจะไหว้ในวันตรุษจีน ความจริงไม่ต้องจัดใหญ่ จัดเต็มกันก็ได้นะ อย่างในช่วงปี - สองปีที่ผ่านมา หลายคนก็ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการไหว้ให้เข้ากับสถานการณ์มากขึ้น อาทิ การงดเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ไม่มีการจุดประทัด รวมถึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการไหว้ให้เรียบง่ายแทน เราว่าอะไรประมาณนี้ก็ท่าจะดีเหมือนกัน ไม่ต้องเหนื่อยเกินไปด้วย 



ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : chinahighlights, thairath และ bangkokbiznews