หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: รวม "วิธีถนอมอาหาร" ยืดอายุได้นาน สายทำอาหารต้องรู้ !  (อ่าน 1055 ครั้ง)

promotion

  • โจรสลัดจอมลุย / โคโนฮะกลุ่ม 7
  • *
  • กระทู้: 2365


สายทำอาหารไม่รู้ ไม่ได้ !


แชร์ทริค สารพัดวิธีการยืดอายุให้วัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นผักเอย ผลไม้เอย หรือเนื้อสัตว์ต่างๆ เอย ใครที่เป็นสายชอบตุน แต่พอถึงเวลาจริงๆ 'ถ้าไม่ขี้เกียจ ก็ไม่มีเวลา' เลยทำให้น้องผักต่างๆ รวมถึงวัตถุดิบอื่นๆ ที่ซื้อมา ต้องแปรสภาพตัวเองไปอยู่ในถังขยะแทน (แง น้อนนนน)  สำหรับใครที่มักจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเองบ่อยๆ ได้เวลามาเรียนรู้เคล็ด (ไม่) ลับ วิธีการถนอมอาหารไปด้วยกันแล้วว งานนี้ วัตถุดิบของชั้นจะต้องรอด 









แชร์ทริค สารพัดวิธีถนอมอาหาร !

ต้องบอกว่าเป็นความโชคดีของพวกเราในตอนนี้ เพราะได้มีวิธีการยืดอายุของวัตถุดิบเกิดขึ้นเยอะมากกก อย่างก่อนหน้านี้เราอาจจะคุ้นกันกับวิธีการแปรรูปวัตถุดิบให้ออกมาเป็นอาหาร  แต่เดี๋ยวนี้เราไม่ต้องรอให้ถึงขั้นของการแปรรูปให้เป็นอาหารกันแล้ว เพราะวัตถุดิบที่ยังไม่เคยผ่านการทำอะไร เราก็สามารถยืดอายุให้กับมันได้เช่นกัน

ซึ่งวัตถุดิบแต่ละชนิดก็มีวิธีการยืดอายุที่แตกต่างกัน  อย่างเนื้อก็อาจจะต้องนำไปบ่มก่อน ถึงจะคงสภาพให้เราสามารถเก็บไว้ได้นาน และอีกสารพัดวิธี
ซึ่งเดี๋ยวพี่ โปร จะมาแชร์ทริควิธีการถนอมอาหาร โดยแบ่งตามประเภทของวัตถุดิบให้เพื่อนๆ ได้ศึกษาและนำวิธีการไปใช้กัน ส่วนจะเวิร์คไม่เวิร์คยังไง หลังจากทดลองกันแล้ว เพื่อนๆ สามารถเข้ามาคอมเมนต์อัปเดตให้ฟังกันได้นะ เผื่อคนอื่นๆ จะได้รู้กันด้วย









วิธีที่นิยมใช้ในการยืดอายุให้ผักและผลไม้

ก่อนที่เราจะไปดูขั้นตอนการยืดอายุให้ผักและผลไม้แบบละเอียดกัน เรามารู้จักวิธีที่นิยมใช้ในการยืดอายุวัตถุดิบในตอนนี้กันก่อนดีกว่า สำหรับวิธีที่นิยมใช้กันอยู่ตอนนี้ พี่ โปรโมชั่น ขอแนะนำ 4 วิธี ประกอบไปด้วยวิธีการแปรสภาพ 1 วิธี ได้แก่ Jam และวิธีการคงสภาพ 3 วิธี ได้แก่ Freezing, Drying และ Pickling


Jam - คือวิธีการแปรรูปของผลไม้ให้ออกมาเป็น 'แยม' สามารถคงอายุไว้ได้นานถึง 18 เดือน เป็นที่นิยมกันมากในต่างประเทศ เพราะง่ายและที่สำคัญคือแยมมักจะเป็นส่วนประกอบในอาหารมื้อหลักกันอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น อาหารเช้า ดังนั้น ในต่างประเทศเลยนิยมนำผลไม้มาทำเป็นแยมเก็บไว้ทานกันเอง เพราะมีขั้นตอนการทำที่ง่าย ที่สำคัญยังเก็บไว้ได้นานด้วย

Freezing - เป็นวิธีการยืดอายุอาหารยอดนิยม แถมยังมีขั้นตอนที่ง่ายสุดๆ ส่วนประกอบมีแค่ถุงใส่อาหารสำหรับที่จะฟรีซ ส่วนวิธีในการฟรีซที่เหมาะสมเดี๋ยวเราจะมาแชร์กันอีกทีด้านล่างนี้ เกียมเลื่อนลงไปอ่านต่อได้เลย

Drying - หรือการนำวัตถุดิบมาตากแห้ง แต่ต้องบอกก่อนว่าวิธีการนี้จะเหมาะกับผักและผลไม้ 'บางชนิด' เท่านั้น อย่างที่นิยมมากๆ ก็จะเป็นพวกสมุนไพร รวมถึงผลไม้ อย่างเช่น กล้วย, แอปเปิ้ล ฯลฯ ซึ่งเจ้าผลไม้อบแห้งนี้นอกจากจะเป็นการยืดอายุให้ผลไม้แล้ว ยังเป็นของกินเล่นยอดนิยมสำหรับสายเฮลตี้อีกด้วย

Pickling - ก็คือการดองผักและผลไม้ สำหรับวิธีการนี้สามารถเก็บไว้ได้นานกว่า 1 เดือน จะมีให้เลือกทั้งแบบการดองด้วยน้ำเกลือ รวมถึงการดองด้วยน้ำส้มสายชู วิธีการนี้จะลดการเน่าเสียของผักและผลไม้ได้ดีมากๆ แต่ก็ต้องเลือกประเภทของผักและผลไม้ที่เหมาะสมกับการดองอีกครั้งนึงด้วย อย่างที่นิยมดองกันมากๆ ก็ได้แก่ แครอท, แตงกวา ถ้าเป็นผลไม้ที่นิยมนำมาดองกันก็คือ มะม่วง ขวัญใจสายกินเปรี้ยวนั่นเอง /ว่าแล้วก็เปรี้ยวปากขึ้นมาทันที 









ยืดอายุผักด้วยวิธีนี้ อยู่ได้นานหลายสัปดาห์ !

ขอบคุณทริคดีๆ จาก ครัวบ้านสวนทวี ที่มาแชร์วิธีการเก็บผักให้สามารถอยู่ได้นานขึ้น ซึ่งเหมาะมากกก สำหรับคนที่ชอบสรรหาซื้อผักเข้าบ้านอย่างเรา  คือตอนที่ซื้อ หลายคนคงไม่ได้คิดอะไร อารมณ์ประมาณว่า เฮ้ย ผักมันดูดีมาก ซื้อมาไว้ก่อนดีกว่า  ซึ่งหน้างานจริงๆ ก็ตามสภาพพพพ แช่ทิ้งไว้นานจนลืม สงสัยจะได้งัดทริคนี้ออกมาใช้กันซะแล้ว



สำหรับทริคที่น่าสนใจของวิธีการยืดอายุผักจากช่องนี้ ก็มีตามนี้เลยจ้า

สำคัญที่สุด คือ สภาพของผักที่เราซื้อมา ต้องเลือกให้ดี อย่าให้ผักช้ำเด็ดขาด

สำหรับผักที่มีก้าน หรือฐานที่หนาและแข็ง อาทิ บร็อคโคลี่ วิธีการยืดอายุก็ง่ายมากๆ ให้เราทำการเฉือนในส่วนของใบออก + หั่นตรงฐานออกเล็กน้อย เสร็จแล้วก็นำไปใส่ในแก้วที่มีขนาดพอดีกับตัวฐาน แล้วค่อยนำไปแช่ในตู้เย็น

ผักที่มีก้านเล็กๆ อาทิ ผักบุ้ง ให้เรานำมาห่อด้วยกระดาษทิชชู่ที่บริเวณลำต้นแล้วนำหนังยางมารัดไว้ (ไม่ต้องล้างผักก่อน) ส่วนตัวฐานให้นำไปใส่ในถุงพลาสติกที่มีน้ำอยู่ในถุงเล็กน้อย นำหนังยางมารัด เสร็จแล้วก็ให้นำมาใส่ในแก้ว แล้วนำไปตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง (หลักๆเลยนะพี่ promotion แนะนำว่าไม่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็นก็ได้ ขอแค่ห้ามโดนแสง รวมถึงความร้อนก็พอ)

อย่างผักที่เป็นหัว เช่น ผักกาด ให้นำมาล้างน้ำให้สะอาด นำมาแยกออกทีละใบ พักทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำมาใส่ในถุงพลาสติก แล้วแช่ใส่ตู้เย็นได้เลยยยย













เก็บต้นหอม ผักชี และขึ้นฉ่ายยังไง ผ่านมา 2 เดือนก็ไม่เน่าเสีย !


ต้นหอม ผักชี และขึ้นฉ่ายนี่เป็นวัตถุดิบที่เรียกได้ว่านิยมใช้กันเป็นหลักในหลายเมนู ซึ่งอันนี้เราอ้างอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เจอมา คือ มันเป็นผักที่เน่าง่ายมากกกก เท่าที่จำได้คือซื้อมาไม่ถึงอาทิตย์ ใบก็เริ่มช้ำ ตรงฐานก็เริ่มเน่า โดยเฉพาะต้นหอมนี่เจอมาจนเพลีย ซึ่งดูเหมือนว่าช่อง Asia Food Secrets ช่องนี้ได้แชร์ทริคการเก็บต้นหอมมาให้เราแล้ว ได้เวลา Save ต้นหอมกันด่วนๆ



สำหรับทริคที่น่าสนใจของวิธีการยืดอายุผักจากช่องนี้ ก็มีตามนี้เลยจ้า

อุปกรณ์ที่ต้องมีในการยืดอายุผักประเภทนี้ ขีดเส้นใต้คำว่า ต้องมี เลยก็คือ ผ้าขาวบาง

มาเริ่มกันที่ ขึ้นฉ่าย กันก่อน สำหรับขึ้นฉ่ายเราจำเป็นต้องตัดส่วนของรากออกก่อน (รากนี้สามารถเก็บไว้ใช้งานต่อได้นะ ไม่จำเป็นต้องทิ้งเด้อ) เสร็จแล้วมาเช็กที่ใบกันต่อ ถ้าเราเจอใบที่ไม่สวย (เน่า หรือเหลือง) ก็ให้เราเด็ดออกไปได้เลย

ส่วน ต้นหอม ก็ต้องเฉือนเอาในส่วนของรากออกเช่นกัน แต่ไม่ต้องเอาส่วนสีขาวออกเยอะนะ แค่พอประมาณก็พอ เมื่อเราเฉือนเอาในส่วนของรากออกแล้ว ก็ให้ลอกเอาใบแรกของต้นหอมออก (สังเกตว่ามันจะงอกออกมาใบเดียว ไม่ได้เชื่อมกับส่วนอื่นๆ ใครสงสัยสามารถดูคลิปประกอบคู่กันไปด้วยก็ได้ ) เมื่อเรียบร้อยแล้วให้ตัดเอาส่วนที่เป็นใบด้านบนออกเล็กน้อย เพื่อที่จะได้คงความสดใหม่ได้เต็มที่

ในส่วนของผักชีนั้น เพื่อนๆ ไม่ต้องหั่นเอารากออก แต่ให้เราทำการดึงเอาใบที่เสีย หรือเน่าออกเท่านั้นเป็นพอ (ทั้งก้าน ทั้งใบเลยเด้อ)

เสร็จแล้วให้นำผักทั้งหมดมาล้างน้ำให้สะอาด แบ่งเป็นกำๆ แล้วใช้หนังยางรัด เสร็จแล้วนำผ้าขาวบางมาชุบน้ำแล้วบิดให้หมาด นำผักมาวางบนผ้าขาวบาง เสร็จแล้วก็ทำการห่อ (พี่ promotions แนะนำว่าตรงนี้ต้องเบาๆ มือนะ ถ้ามือหนักไป เดี๋ยวผักที่เราพิถีพิถันมาทั้งหมด อาจจะช้ำได้) เมื่อห่อเสร็จแล้วให้นำมาใส่ในถุงพลาสติก บีบไล่ลมออกให้หมด แล้วมัดหนังยางให้แน่น แล้วนำไปแช่ตู้เย็นกันได้เลยยย












คงความสดใหม่ให้กับผลไม้แบบง่ายๆ แค่ต้องอาศัยวิธีการที่ถูกต้อง


สำหรับวิธีการเก็บผลไม้นั้น ต้องบอกเลยว่า ไม่ซีเรียสเท่ากับการเก็บผัก  เพียงแต่เราจะต้องเก็บให้ถูกวิธี เพื่อจะได้เพิ่มความสดใหม่ให้กับเจ้าผลไม้ของเราให้อยู่ได้นานขึ้น สำหรับวิธีเก็บผลไม้ที่เหมาะสมนั้น จะมีอุปกรณ์หลักๆ ที่ต้องเตรียมอยู่ 2 อย่าง คือ ถุงซิปล็อก กับกล่องเก็บอาหารแบบมีฝาปิด + มีรูระบายอากาศนั่นเอง

ส่วนวิธีการเก็บผลไม้นั้น ก็แค่นำมาใส่ในถุงซิปล็อก หรือกล่องใส่อาหาร แต่มีข้อแม้ว่า ให้แยกชนิดของผลไม้ และไม่จำเป็นต้องนำผลไม้มาล้างน้ำก่อน จะได้ช่วยลดความชื้น ที่อาจจะทำให้ผลไม้เน่าเสียได้ เราเลยแนะนำให้เพื่อนๆ ล้างทีเดียวตอนที่จะกินเลย เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ให้นำมาเรียงไว้ในตู้เย็นช่องปกติได้เลย (หรือตู้เย็นบ้านใครมีช่องสำหรับแช่ผลไม้ ก็ให้นำไปแช่ในช่องนั้นได้เลย) เห็นไหมว่าง่ายมาก !

อ้อ สำหรับคนที่ต้องการจะนำผลไม้มาทำเป็นเครื่องดื่มแนว Smootie เราแนะนำให้เก็บในช่องฟรีซนะ เวลานำออกมาปั่นจะได้เย็นสดชื่น ได้ฟีลมากกว่า หรือใครสะดวกในการแช่ช่องธรรมดาก็ได้ เอาที่สะดวกกันโล้ดด





เห็นผลภายใน 2 สัปดาห์
ลดผมร่วงได้อย่างชัดเจน

 









วิธีที่นิยมใช้ในการยืดอายุให้เนื้อสัตว์

และเช่นเคย ก่อนที่เราจะไปดูขั้นตอนของการเก็บเนื้อสัตว์กัน เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าปกติแล้วเนื้อสัตว์เค้ามีวิธีที่นิยมใช้ในการยืดอายุกันยังไง แล้ววิธีไหนเป็นวิธีที่ง่าย และนิยมทำกันมากที่สุด ซึ่งทุกคนรู้กันไหมว่า ถ้าเราเก็บเนื้อสัตว์ในวิธีที่ถูกต้อง เราจะสามารถช่วยยืดอายุให้เนื้อสัตว์ชิ้นนั้นๆ อยู่ได้นานเป็นปีๆ เชียวนะ แต่เชื่อว่าพวกเราส่วนใหญ่คงไม่มีใครปล่อยเนื้อทิ้งไว้นานขนาดนั้นหรอกใช่ไหม หรือว่าจะมีกันนะ


Freezing - เป็นวิธีการยืดอายุเนื้อสัตว์ที่ยอดนิยม อารมณ์ประมาณว่า คิดอะไรไม่ออก บอกช่องแช่แข็ง5555  วิธีการนี้นอกจากจะช่วยยืดอายุให้กับวัตถุดิบประเภทเนื้อสัตว์ให้กับเราได้แล้ว ยังเป็นวิธีการที่นิยมใช้กันกับวัตถุดิบประเภทอื่นๆ อีกด้วย เพราะความเย็นจะสามารถช่วยรักษาความสดใหม่ และคงสภาพของวัตถุดิบได้ดีจริงๆ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องจัดเก็บให้ถูกวิธี เท่านั้นเป็นพอ !

Salt Curing - หรือการหมักเกลือ วิธีนี้เป็นวิธีการที่ถูกใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วทุกคน แล้วจะบอกว่าการหมักด้วยเกลือนี้สามารถต่ออายุให้กับเนื้อสัตว์ได้ดีกว่าการแช่แข็งเสียอีก ที่สำคัญเกลือยังช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ที่อยู่ในอาหารได้ แถมยังช่วยลดกลิ่นได้ดีด้วย




อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม คลิ๊กเลย >>> https://www.punpro.com/p/preserving-food-tips







เก็บสารพัดเนื้อทั้งหลายยังไง ให้อยู่ได้นานเป็นเดือน !

5 in 1 ไปเลยจ้า กับวิธีเก็บเนื้อสัตว์ทั้งหลายจาก KRUA dot CO ที่ได้แชร์วิธีการเก็บอาหารสด ประเภทเนื้อสัตว์ทั้งหลายให้อยู่ได้นานขึ้น รวมถึงทริคต่างๆ อาทิ การนำมาถูด้วยเกลือก่อน รวมถึงการจัดเก็บ บอกเลยว่าได้ประโยชน์ฝุดๆ


สำหรับทริคที่น่าสนใจของวิธีการยืดอายุเนื้อสัตว์จากช่องนี้ ก็มีตามนี้เลยจ้า

สำหรับเนื้อสัตว์ประเภท เนื้อหมู, เนื้อวัว และเนื้อไก่  (แบบที่ยังไม่ได้สับละเอียด) ก็ใช้วิธีการนำมาถูด้วยเกลือให้ทั่วทั้งชิ้น เมื่อถูเรียบร้อยให้นำมาล้างด้วยน้ำเปล่า ซับน้ำออกให้แห้ง เสร็จแล้วนำหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาแบ่งใส่ถุงซิปล็อก (จัดสรรให้ดี ไม่ต้องจับยัดหมดในถุงเดียวนะทุกคน) เสร็จแล้วกดไล่ฟองอากาศให้เรียบร้อยแล้วปิดถุง เสร็จแล้วนำมาใส่กล่อง แล้วนำเข้าช่องแช่แข็งได้เลยจ้า

สำหรับเนื้อสัตว์ประเภทที่มีการสับ หรือบดอย่างละเอียดแล้ว ให้นำเนื้อมาใส่ในถุงซิปล็อก (อย่าลืมกะปริมาณดีๆ ) เสร็จแล้วให้รีดเนื้อให้แบนที่สุด เท่าที่จะทำได้ เสร็จแล้วนำมาใส่กล่อง แล้วเอาเข้าช่องแช่แข็งกันได้เลย

มาต่อกันที่อาหารทะเลกันบ้าง  เริ่มกันที่น้องจุ้ง (กุ้ง) ก่อนเลยก็แล้วกัน อันดับแรกเลยคือการนำกุ้งมาล้างในน้ำเกลือ เพื่อดับกลิ่นคาว เสร็จแล้วให้ทำการปอกเปลือกกุ้งออกให้เหลือแต่เนื้อ (ส่วนหลังกุ้งก็ให้ผ่าแล้วดึงเส้นดำออกให้เรียบร้อยก่อน)  เมื่อเรียบร้อยให้ใส่แป้งมันลงไปคลุกกับกุ้ง แล้วล้างออกอีกรอบ (เพื่อลดความคาวอีกครั้ง) เสร็จแล้วนำกุ้งมาเรียงในกล่องทีละชั้น โดยคั่นแต่ละชั้นด้วยกระดาษไข เสร็จแล้วนำเข้าช่องแข็งโล้ด

ปิดท้ายกันที่เนื้อปลา สำหรับเนื้อปลานั้นมีวิธีการที่คล้ายกันกับเนื้อหมู เนื้อวัว และเนื้อไก่ คือการนำมาถูด้วยเกลือก่อน เสร็จแล้วล้างน้ำออก นำมาหั่นเป็นชิ้นๆ นำมาใส่ถุงซิปล็อก แล้วซีลเอาอากาศออกให้หมด (วิธีนี้จะช่วยคงความสดได้นานขึ้น) เสร็จแล้วนำใส่กล่อง เข้าช่องแช่แข็งกันได้เลยย ง่ายมั่ก









วิธีจัดเก็บเนื้อสัตว์ให้มีระเบียบ แถมยังถนอมอาหารไปในตัว !

จุดเด่นของช่อง บ้านนากาชิม่า ก็คือ ความเป็นระเบียบเลยทุกคนนน คือเราดูเพลินมาก นอกจากจะได้ประโยชน์เรื่องวิธีการจัดเก็บเนื้อสัตว์แล้ว ยังได้ทริคสำหรับการจัดระเบียบตู้เย็นไปในตัว แต่ต้องบอกก่อนว่า ขั้นตอนของการเก็บเนื้อสัตว์ด้วยวิธีการแช่ช่องแข็ง เป็นวิธีที่เรามองว่าสามารถยืดอายุของเนื้อได้เวิร์คและเหมาะกับพวกเราสุดๆ แล้ว เพราะเนื้อสัตว์ไม่ได้มีความเปราะบางเท่ากับพวกผักและผลไม้ ดังนั้น พวกบรรดาวิธีการต่างๆ อาจจะไม่ได้ต่างจากทริคข้อที่แล้วมากนัก แต่เรื่องความเป็นระเบียบนี่ต้องยกให้ช่องนี้เลย !


สำหรับทริคที่น่าสนใจของวิธีการยืดอายุเนื้อสัตว์จากช่องนี้ ก็มีตามนี้เลยจ้า

สำหรับเทคนิคของช่องนี้เค้าจะใช้ ฟิล์มถนอมอาหาร มาทำการห่อเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ โดยจะห่อให้มีขนาดเป็นสี่เหลี่ยมเท่าๆ กัน เพื่อความเป็นระเบียบเวลานำเข้าตู้เย็น ถ้าเป็นเนื้อสัตว์ประเภทที่มีการบดมาแล้ว ไม่ต้องนำมาล้างน้ำเปล่า สามารถนำมาห่อแล้วนำเข้าช่องแช่แข็งได้เลย

แต่ถ้าเป็นเนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ๆ ที่ยังไม่มีการบดมา ก็ให้นำมาล้างน้ำ แล้วหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อน แล้วแบ่งห่อให้มีขนาดพอดี ส่วนพวกเนื้อปลาก็จะแยกห่อทีละชิ้น เพื่อความสะดวกในการหยิบออกมาทำอาหาร ส่วนวิธีการจัดเก็บก็จะนำมาใส่ในตะกร้า แยกเป็นช่องๆ เวลาวางก็วางแยกเป็นตะกร้าๆ ในช่องแช่ / จะบอกว่าหลังจากที่เราเห็นช่องแช่แข็งของเค้าแล้ว ช่องแช่ตัวเอง คือ กลายเป็นรกไปเลย แหะๆ อายจุง








ป้ายยา 4 ไอเทมที่ต้องมีในการถนอมอาหาร





ไอเทมที่ 1 : ตะกร้าล้างผัก

จุดเด่น :  เป็นทั้งกะละมังล้างผัก + สะเด็ดน้ำไปในตัว แถมราคาก็ไม่แรง บอกเลยมีไอเทมนี้แล้วชีวิตดีขึ้นจริงๆ

ราคา : 18 บาท

ช็อปได้ที่นี่ : https://ppro.onl/3uuz58un


*ราคา ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2564









ไอเทมที่ 2 : ถุงซิปล็อก

จุดเด่น :  สามารถนำมาดัดแปลงใส่วัตถุดิบได้หลายอย่าง ที่สำคัญวัสดุของเค้าเป็นพลาสติก Food Grade เพราะฉะนั้นหมดกังวลเรื่องความปลอดภัยกันได้เลย

ราคา : 98 บาท / 1 กิโลกรัม (มีให้เลือกหลายขนาด แต่ราคาเดียวจ้า)

ช็อปได้ที่นี่ : https://ppro.onl/7z9c8hft


*ราคา ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2564









ไอเทมที่ 3 : เครื่องซีลสุญญากาศ

จุดเด่น :  อีกหนึ่งไอเทมตัวช่วยในการถนอมอาหาร เพราะถ้าอากาศหลุดเข้าไปในอาหารของเรา ยิ่งจะเป็นการลดอายุของมันไปพร้อมๆ กันด้วย ดังนั้นไอเทมนี้เลยตอบโจทย์มาก ถ้าเราอาศัยการไล่ลมด้วยมืออย่างเดียวอาจไม่พอ (และเหนื่อยเกินไปเปล่าๆ) ดังนั้นสายทำอาหารควรค่าแก่การตำจ้า !

ราคา : 259 บาท

ช็อปได้ที่นี่ : https://ppro.onl/2xrkcwsz


*ราคา ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2564









ไอเทมที่ 4 : ฟิล์มถนอมอาหาร

จุดเด่น :  มีที่ตัดในตัว ทำให้สะดวกในการใช้งาน ที่สำคัญสามารถนำเข้าไมโครเวฟ และช่องแข็งได้แบบสบายๆ ตัวพลาสติกมีเนื้อหนา ไม่ขาดง่าย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถนอมอาหารให้ดีขึ้น

ราคา : 39 บาท (รีฟิล 35 บาท)

ช็อปได้ที่นี่ : https://ppro.onl/3hchcauav

*ราคา ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2564





ขั้นตอนของการถนอมอาหาร เอาจริงๆ ดูเหมือนจะง่าย แต่บางประเภทก็ต้องอาศัยงานดีเทลพอสมควร ยกตัวอย่างเช่น บรรดาผักต่างๆ ส่วนเนื้อก็ไม่มีอะไรมาก พอได้ตัวช่วยอย่างช่องแช่แข็งมา ทุกอย่างก็ดูง่ายขึ้นเป็นกอง ส่วนใครที่มีเทคนิคอะไรนอกเหนือจากนี้มาแนะนำ หรือนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้แล้วได้ผลยังไง ก็สามารถคอมเมนต์กันเข้ามาได้ ทางเราขอตัวไปจัดระเบียบครัวตัวเองก่อนหนึ่ง หลังจากเจอพลังของแม่บ้านญี่ปุ่นตกมา555555


ขอบคุณข้อมูลจาก : almanac.com, wikihow.com, cookist.com, urbansurvivalsite.com และ foodnetworksolution.com