หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: เริ่มแล้ว! มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ‘ช้อปดีมีคืน’ ทำยังไงถึงจะได้เงินคืน?  (อ่าน 1118 ครั้ง)

promotion

  • โจรสลัดจอมลุย / โคโนฮะกลุ่ม 7
  • *
  • กระทู้: 2343



เข้าสู่ช่วงปลายปีแบบนี้
เรียกได้ว่าเป็นโอกาสทองของสายช้อป!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าช้อปแล้วยังช่วยลดหย่อนภาษีได้อีก
คงจะเป็นอะไรที่ดีต่อใจมากกกก~


เผลอแป๊บเดียวก็ใกล้จะสิ้นเดือน และยิ่งช่วงรอยต่อระหว่างปีเก่ากับปีใหม่แบบนี้ บรรดาสายช้อปทั้งหลายคงจะยิ้มแก้มปริกันถ้วนหน้า เพราะสินค้าก็พากันแห่ลดราคา อย่างบางคนถึงขนาดยอมกลั้นใจมาซื้อกันในช่วงปลายปีแบบนี้แทน แต่เมื่อมองย้อนกลับไปสักประมาณ 4-5 เดือนก่อนหน้า บอกตามตรงเลยว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างเราอาจจะไปทุ่มให้กับสินค้าประเภทหน้ากากอนามัย รวมถึงเจลแอลกอฮอล์กันไปซะหมด

พอสถานการณ์เริ่มดีขึ้น คนก็ไม่ค่อยกล้าที่จะใช้เงิน เพราะกลัวว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะวนลูปกลับมาใหม่ เลยส่งผลทำให้ทางรัฐบาลหาทางออก ด้วยการเปิดตัว 'ช้อปดีมีคืน' มาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย และที่สำคัญคือยิ่งช้อปเยอะ ก็จะยิ่งช่วยลดหย่อนภาษีได้เยอะ ส่วนจะมีรายละเอียดอะไรบ้าง มาดูกัน!






ช้อปดีมีคืน มาตรการกระตุ้นเงินในกระเป๋าของสายช้อป!


ช้อปดีมีคืน เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เปิดตัวเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจ, ทำให้เกิดการบริโภคภายในประเทศ รวมไปถึงการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งทางรัฐบาลจะให้สิทธิ์กับผู้บริโภคที่ใช้จ่ายรวมกันไม่เกิน 30,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. - 31 ธ.ค. 63 ในการนำเอกสารมายื่นขอลดหย่อนภาษีเงินได้ที่กำลังจะมาถึงในเดือนมีนาคม ปีหน้านี้

และสำหรับสินค้าที่ช้อปแล้วสามารถนำมายื่นขอลดหย่อนภาษีได้ จะต้องเป็นสินค้าที่มีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม, หนังสือ, เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมไปถึงสินค้า OTOP และจะต้องเป็นร้านค้าที่ทำการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วเรียบร้อย ที่สำคัญคือจะต้องเป็นร้านที่สามารถออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบได้นั่นเอง เรียกว่าร้านค้าทั้งหลายคงรีบใช้โอกาสนี้รีบจัด โปรโมชั่น เรียยอดขายกันอย่างรัวๆเกิดประโยชน์ทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขายกันอย่างถ้วนหน้า แต่ใดๆ ก็ตามก็จะมีสินค้าและบริการบางตัวที่ไม่สามารถขอใบกำกับภาษีเพื่อนำมาลดหย่อนได้ อาทิ

- สุรา เบียร์ และไวน์

- ยาสูบ

- ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ

- ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมถึงเรือ

- ค่าหนังสือพิมพ์, นิตยสาร รวมถึงค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

- ค่าบริการจัดนำเที่ยว

- ค่าที่พักในโรงแรม



สำหรับสายช้อปออนไลน์ไม่ต้องห่วง
เพราะตราบใดที่ร้านอยู่ในระบบภาษีและมีการออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบที่ถูกต้อง
เราก็สามารถนำหลักฐานตรงนั้นมายื่นขอลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกันจ้า





ได้สิทธิ์ทุกคน ไม่ต้องเข้าคิวลงทะเบียนในเว็บให้ยุ่งยาก

สำหรับใครที่กังวลว่าเราจะต้องทำสงครามกับสายช้อปคนอื่นด้วยการตื่นมารอลงทะเบียนตั้งแต่เช้าตรู่เหมือนที่ผ่านๆ มารึเปล่า ปันโปรตอบเลยว่า 'ไม่จำเป็น' เพราะไม่ว่าใครก็ได้สิทธิ์นี้ ขอเพียงแค่เตรียมเอกสาร หลักฐานมายื่นขอลดหย่อนภาษีให้ถูกต้องตามเงื่อนไขก็เป็นอันเรียบร้อย~

- ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์นี้ได้ จะต้องเป็นผู้ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ใช่ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และจะต้องไม่เคยใช้สิทธิ์โครงการ 'คนละครึ่ง' มาก่อน

- ระยะเวลาการใช้จ่ายต้องอยู่ระหว่าง 23 ตุลาคม 63 - 31 ธันวาคม 63 เท่านั้น!

- สำหรับค่าใช้จ่ายโดยรวมที่จะยื่นขอลดหย่อน รัฐจะให้คนละไม่เกิน 30,000 บาท หากใครที่มียอดใช้จ่ายเกินจากนี้ จะนับรวมแค่ 30,000 บาท

- เตรียมเอกสารขอลดหย่อนภาษีให้ครบอันได้แก่ ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบที่แสดงให้เห็นยอดการซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ผู้ประกอบการได้ทำการจดทะเบียนภาษีแล้วเท่านั้น!

- เมื่อเตรียมเอกสารทุกอย่างครบ ก็ให้รอยื่นภาษีในเดือนมีนาคม 2564 ที่จะถึง หากใครเป็นมือใหม่ในการยื่นขอคืนภาษี ก็สามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้




อยากมีเสน่ห์ดึงดูดใคร
ก็ต้องรู้จักดูแลบุคลิกภาพกันด้วยน้าาาาา








Phathavie Herbal shampoo


ช่วย >>> ลดผมร่วงหลังคลอด

และ >>> ลดผมร่วงช่วยเสริมผมขึ้นใหม่
เห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 2 สัปดาห์ ,

  เร่งผมยาวไว , สามารถใช้แทน
>>> ยาปลูกผม <<<






เรื่องของผมอย่าปล่อยให้ผมร่วงจนบางล่ะ









คำถามอื่นๆ ที่ตามมา เกี่ยวกับนโยบาย 'ช้อปดีมีคืน'

ถึงแม้ว่าขั้นตอนของการรับสิทธิ์จะไม่ยุ่งยาก แค่เตรียมเอกสารไว้ แล้วรอยื่นทีเดียวปีหน้า แต่ปันโปรและเพื่อนๆ หลายคนก็คงจะมีคำถามแว๊บเข้ามาในหัวเกี่ยวกับนโยบายนี้กันอยู่บ้าง เลยได้จัดการไปหาคำตอบมาเตรียมไว้ให้เรียบร้อย หากใครมีข้อสงสัยเหมือนกัน ได้เวลาไขข้อสงสัยกันได้เลย~



- ต้องซื้อของถึง 30,000 บาทเลยหรอ ถ้าไม่ถึงได้ไหม?
มีกังวลกันล่ะซิ ว่าเอ... นี่ชั้นจะต้องพยายามหาซื้ออะไรให้มันถึง 30,000 บาทรึเปล่านะ พี่ โปร บอกเลยว่าไม่ต้องถึงขั้นนั้นจ้า เพราะนี่เป็นเพียงเงื่อนไขที่รัฐตั้งเอาไว้เฉยๆ คือจะซื้อของเท่ากับ, น้อยกว่า 30,000 บาทก็ได้รับสิทธิ์หมดจ้า


- แล้วถ้าเกิน 30,000 บาทล่ะ ทำยังไง?
ระบบก็จะคำนวนให้แค่ 30,000 บาทเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะเกินมานิดหน่อย หรือเกินกว่านี้ไปมากๆ แต่เงื่อนไขระบุเอาไว้แล้วตั้งแต่ต้นว่าจะคำนวนได้ไม่เกิน 30,000 บาทเท่านั้นน้า


- เผลอกดรับสิทธิ์โครงการคนละครึ่งไปแล้ว แต่อยากเปลี่ยนมารับสิทธิ์อันนี้ สามารถทำได้ไหม?
อย่างที่ปันโปรบอกไปก่อนหน้านี้ ว่าผู้ที่จะรับสิทธิ์ยื่นขอลดหย่อนภาษีนี้ได้จะต้องไม่ใช่ผู้ที่รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่ง แต่ถ้าหากใครเผลอกดรับสิทธิ์โครงการนั้นไปแล้ว เกิดอยากเปลี่ยนกะทันหันก็สามารถทำได้ ด้วยการรอให้เลย 14 วันหลังจากลงทะเบียนรับสิทธิ์โครงการคนละครึ่งไปก่อน ระหว่างนั้นต้องห้ามใช้สิทธิ์นะ เพราะถ้าใช้สิทธิ์ไปแล้วจะไม่สามารถขอรับสิทธิ์ช้อปดีมีคืนได้ เว้นเสียแต่ว่ารับสิทธิ์ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ใช้ตามระยะเวลาที่กำหนดของโครงการคนละครึ่ง ก็จะสามารถเปลี่ยนมารับสิทธิ์ช้อปดีมีคืนแทนได้จ้า





- 30,000 บาททีว่า คือจำนวนเงินที่เราจะได้คืนอย่างงั้นหรอ?
เชื่อว่าหลายคนคงจะเข้าใจกันแบบนี้ แต่ถ้าใครเคยผ่านการยื่นภาษีมาก่อนจะรู้ว่ามันไม่ใช่ เพราะเงินจำนวน 30,000 บาทนั้นจะต้องถูกนำไปคำนวนกับจำนวนเงินได้ทั้งปี และอัตราภาษีที่แต่ละคนต้องจ่าย ซึ่งไม่มีทางว่าเงินที่ลดหย่อนนั้นจะเท่ากันทุกคนแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีเงินได้สุทธิอยู่ระหว่าง 150,001 - 300,000 บาท ต่อให้ช้อปไป 30,000 บาท จะมีสิทธิ์ได้คืนภาษีอยู่ที่ประมาณ 1,500 เท่านั้น

สำหรับผู้ที่ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้น้อยกว่า 150,000 บาท โดยปกติจะได้รับการยกเว้นการจ่ายภาษีอยู่แล้ว ต่อให้จะช้อป 30,000 บาท ยังไงเราก็จะไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินคืนภาษีตรงนี้น้า


- ถ้าเป็นการซื้อสินค้าโดยการรูดบัตรเครดิตล่ะ ได้รึเปล่า?
ได้เหมือนกันจ้า ขอเพียงแค่อย่าลืมขอเอกสารใบกำกับภาษีที่ออกให้ระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม 63 - 31 ธันวาคม 63 แบบเต็มรูปแบบมาไว้ยื่นก็พอ


- 30,000 บาทคือต่อร้าน หรือซื้อหลายร้านได้?
ใครอยากจะช้อปร้านเดียว 30,000 เลย หรือจะร้านละนิด ละหน่อย ก็แหม่ช่วงนี้ร้านค้าก็จัด promotion กันเยอะเลยอ่า ไม่ว่าจะช้อปที่ร้านเดียวหรือหลายร้านก็บอกเลยว่าได้หมด! (ไม่ต้องถึง 30,000 บาทก็ได้) ขอแค่อย่าลืมเก็บเอกสารใบกำกับภาษีเตรียมเอาไว้ด้วยน้า


- สามารถซื้อสินค้าที่เข้าเกณฑ์ กับไม่เข้าเกณฑ์รวมกันในใบเสร็จเดียวได้ไหม?
เอาจริงๆ แล้วได้นะ แต่เพื่อความเป็นระเบียบในการจัดการ ปันโปรแนะนำว่าให้แยกดีกว่า แต่ถ้าใครไม่สะดวกจริงๆ ก็สามารถขอเอกสารใบกำกับภาษีแบบรวบยอดทั้งสินค้าที่เข้าเกณฑ์และไม่เข้าเกณฑ์ไว้ในใบเดียวได้เหมือนกัน แต่เวลาคำนวนก็ให้คำนวนเฉพาะสินค้าและบริการที่ตรงกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้เท่านั้น



ปันโปรหวังว่าทุกคนคงจะเข้าใจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่าง ช้อปดีมีคืน นี้กันมากขึ้น และที่สำคัญสายช้อปทั้งหลายได้เวลาเตรียมตัวให้พร้อม เพราะพวกเรามีระยะเวลาในการช้อปถึงสิ้นเดือนธันวาคมเท่านั้น จังหวะนี้ใครอยากได้อะไรต้องรีบซื้อแล้ว ที่สำคัญอย่าลืมเช็กเงื่อนไขของสินค้าและบริการที่เข้าร่วมกันดีๆ ด้วยน้าา