หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน จำเป็นไหม?  (อ่าน 1710 ครั้ง)

Thanitanitan

  • พลทหาร / นักเรียนนินจา
  • *
  • กระทู้: 26
ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน จำเป็นไหม?
« เมื่อ: พฤ. 29 ส.ค. 2019 เวลา 20:11:07 »
การสมรสนับเป็นความฝันของใครหลายๆคน แต่ก่อนจะตกลงใจใช้ชีวิตคู่ด้วยกันนั้น สิ่งที่คุณควรจะทำเป็นอันดับหนึ่งเป็น การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณแล้วก็คู่พร้อมในการมีครอบครัว แม้กระนั้นหลายๆคนอาจกำเนิดปริศนาว่า การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานนั้นจำเป็นต้องจริงๆหรือตรวจแล้วได้ประโยชน์อะไร หรือต้องตรวจอะไรบ้าง
 

ประโยช์จากการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน
หลายๆคนบางทีอาจเข้าใจว่า การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานมีจุดมุ่งหมายเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การมีลูกเพียงแค่นั้นทำให้หลายคนที่ยังไม่มีแผนจะมีลูกรู้สึกว่า ไม่มีความจำเป็นต้องตรวจก็ได้ แต่ว่าที่จริงแล้ว ประโยชน์ของการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานยังมีมากกว่านั้น
1.เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คู่รัก
หลายคนมั่นใจว่า ตนเองมีสุขภาพแข็งแรงจึงรู้สึกว่า ไม่มีความจำเป็นที่ต้องตรวจสุขภาพก็ได้ หรือบางบุคคลมีความเห็นกันว่า การขอให้คนรักไปตรวจสุขภาพคือการไม่วางใจกัน หรืออีกแง่หนึ่งเป็น รู้จักกันมานานจึงเชื่อใจในการกระทำและมั่นอกมั่นใจในสุขภาพของอีกข้าง แม้กระนั้นจริงๆแล้ว คุณหรือคู่อาจได้รับเชื้อ หรือเจ็บไข้โดยไม่รู้ตัวก็ได้ แม้เป็นแบบนั้นเชื้อพวกนั้นบางทีอาจส่งผ่านสู่คนรักได้ด้วย เชื้อสำคัญได้แก่

  • เชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง


เชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV หรือ Human Immunodeficiency Virus) คือ เชื้อสำคัญที่จะต้องอยู่ในลิสต์การตรวจสุขภาพในลำดับหนึ่งด้วยเหตุว่าถ้าหากติดโรคแล้วจะไม่มีวันรักษาให้หายสนิทได้ ที่สำคัญผู้ติดเชื้อในระยะเริ่มแรกส่วนมากยังไม่มีการแสดงอาการใดๆอีกด้วย ทำให้ผู้ติดเชื้อโรคบางบุคคลไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อโรค จึงเพิ่มโอกาสการแพร่ไปเชื้อสู่ผู้อื่นได้อย่างไม่ยากเย็น ถ้าเกิดผู้ติดเชื้อโรคมิได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องจะก่อให้ภูมิต้านทานโรคอ่อนแอลงเรื่อยจนกระทั่งร่างกายเกิดโรคแทรกตามมาแล้วก็เสียชีวิตสุดท้าย
อย่างที่รู้กันดีว่า ช่องทางหลักในการติดโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องคือ การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดโรค ด้วยเหตุนี้เพื่อความแน่ใจหมดทั้งตัวคุณเองและแฟนก็ควรตรวจหาเชื้อนี้ด้วย

  • เชื้อไวรัสตับอักเสบบี / ซี


เชื้อไวรัสอีกชนิดที่อันตรายแล้วก็รุนแรงไม่แพ้กันคือ เชื้อไวรัสตับอักเสบบี / ซี เชื้อไวรัสชนิดนี้จะเข้าไปทำลายเซลล์ตับ ถ้าเกิดปลดปล่อยไว้ไม่ได้รับการดูแลและรักษาบางทีอาจขยายกลายเป็นมะเร็งตับได้ ดังนี้วิถีทางการติดต่อของเชื้อไวรัสประเภทนี้เป็น ติดต่อทางเลือด น้ำกาม น้ำหล่อลื่น รวมทั้งสารคัดหลั่งต่างๆของร่างกาย

  • โรคซิฟิลิส


เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมาจากการได้รับเชื้อแบคทีเรียทริปโปนีมา พัลลิดุม (Treponema pallidum) อาการของโรคซิฟิลิสเป็น ระยะเริ่มต้นจะปรากฏแผลลักษณะแข็งๆสีแดง ขอบนูนบริเวณช่องคลอด ทวารหนักองคชาต หรือปาก ซึ่งผู้ป่วยบางทีอาจไม่มีลักษณะของการเจ็บปวดใดๆก็ตามรวมทั้งแผลนั้นจะหายไปเอง ทำให้ผู้ป่วยมีความคิดว่าหายเป็นปกติแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วเชื้อแบคทีเรียยังหลบซ่อนอยู่ในร่างกาย ถ้าเกิดไม่ได้รับการดูแลและรักษาเชื้อจะแพร่กระจายและก็รังแกเซลล์ร่างกายไปเรื่อยๆจนทั่วร่างกายแล้วก็ทำให้เสียชีวิตได้
เชื้อแบคทีเรียชนิดดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจะติดต่อด้วยการสัมผัสแผลที่เกิดขึ้นจากโรคโดยตรงซึ่งมักเกิดขึ้นรอบๆของลับ ทวารหนัก หรือข้างในโพรงปาก ด้วยเหตุผลดังกล่าวการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือการออรัลเซ็กส์กับผู้ป่วยโรคซิฟิลิสจึงล้วนทำให้ติดเชื้อโรคได้ทั้งหมด
การได้รับเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ
เว้นแต่โรคหลักๆที่กล่าวมาแล้วข้างต้นแล้ว แม้คุณมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ หรือเคยมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ยกตัวอย่างเช่นเปลี่ยนคู่รักบ่อยครั้ง หรือร่วมเพศโดยไม่ปลอดภัยก็ควรมีการตรวจคัดเลือกกรองโรคหรือรักษาเพื่อให้มีความปลอดภัยทั้งคุณเองและแฟนด้วยด้วยเหมือนกัน โรคทางเพศสมาคมที่บางทีอาจส่งผ่านคู่ควงของคุณตัวอย่างเช่น อย่างเช่น โรคหนองใน เริม หูดหงอนไก่ หูดข้าวสวยฯลฯ
2.เพื่อเช็คความพร้อมของป๊ะป๋าและก็คุณแม่
คู่รักส่วนใหญ่เมื่อสมรสและก็เริ่มคิดแผนเพื่อมีลูก คนส่วนมากมักมีความรู้สึกว่า หากอีกทั้งคุณเองและคนรักมีสุขภาพกายแข็งแรงก็สามารถมีลูกได้ทันทีโดยไม่จำเป็นจำเป็นต้องตรวจสุขภาพ แต่ที่จริงแล้วควรจะตรวจคัดเลือกกรองก่อนว่าทั้งสองมีร่างกายที่บริบูรณ์แข็งแรงพร้อมสำหรับเพื่อการมีลูกไหม อย่างเช่น ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดตรวจโรคที่บางทีอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อการตั้งครรภ์ ฯลฯ หรือบางคู่บางทีอาจตรวจสุขภาพเพิ่มอีกเพื่อเช็คว่าคุณเข้าข่ายสภาวะมีลูกยากหรือเปล่า
3.เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของลูก
ต่อเนื่องจากข้อที่แล้วว่าสุขภาพของพ่อแม่นั้นส่งผลโดยตรงต่อลูกด้วย โรคบางโรคอาจถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือมีผลกระทบต่อการมีครรภ์ หรือสุขภาพของลูกในอนาคตได้จึงควรมีการตรวจคัดเลือกกรองก่อนการตั้งท้องเพื่อจะได้วางแผนป้องกันได้อย่างเหมาะสม อย่างเช่น โรคภูมิคุมกันบกพร่อง ไวรัสตับอักเสบบีรวมทั้งซี ที่บางทีอาจถ่ายทอดสู่เด็กแรกคลอดได้ หรือโรคเหือด ที่ถ้าแม่ป่วยเป็นหัดเยอรมันขณะมีครรภ์ อาจจะก่อให้ลูกทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตได้ (จึงควรมีการฉีดยาป้องกันก่อน)
ธาลัสซีเมีย เป็นอีกโรคที่ไม่สมควรละเลย ธาลัสซีเมียเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ไม่สามารถที่จะรักษาให้หายได้ ผู้ป่วยจะเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้ง่าย เป็นต้นว่าครรภ์เป็นพิษ เด็กตัวซีดเซียวเหลือง ตับ ม้ามโต ตัวแคระแกร็น ใบหน้าผิดรูปผิดร่าง มีภูมิคุ้มกันโรคต่ำ เป็นต้น สิ่งจำเป็นที่จึงควรรู้เกี่ยวกับธาลัสซีเมียเป็น บางครั้งคุณหรือคู่รักบางทีอาจไม่มีอาการป่วยด้วยโรคธาลัสซีเมีย แต่ว่าคุณอาจเป็นพาหะนำโรคธาลัสซีเมียซึ่งสามารถส่งต่อสู่ลูกของคุณและทำให้ลูกของคุณเจ็บไข้ได้
โดยเหตุนี้คู่สมรสทุกคู่ก็เลยจึงควรตรวจคัดกรองธาลัสซีเมีย และก็ถ้าหากพบว่าคุณเป็นพาหะธาลัสซีเมียต้องได้รับข้อเสนอจากหมอว่า มีโอกาสที่จะถ่ายทอดสู่ลูกมากน้อยแค่ไหน จะได้วางแผนมีท้องได้อย่างเหมาะสม
นอกนั้นต้องมีการตรวจประเภทของกรุ๊ปเลือด Rh (Rh Factor) ชาวไทยโดยธรรมดาจะมีค่า Rh+ แต่บางบุคคลโดยเฉพาะคนต่างชาติบางทีอาจเจอได้ว่ามีประเภท Rh- ถ้าเกิดฝ้ายข้างใดข้างหนึ่งมีค่า Rh- เมื่อมีการตั้งท้องจะมีผลให้เสี่ยงต่อการแท้งเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุว่าบางทีอาจเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกของทารกในครรภ์และก็ทารกแรกเกิดได้ จำเป็นต้องมีการตระเตรียมล่วงหน้า