สตีฟ จ็อปส์ (Steve Jobs) ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple บุคคลผู้เป็นพลังเบื้องหลังผลงานสร้างสรรค์ Mac, iPhone, iPad และ iPod เสียชีวิตเมื่อวันพุธที่ผ่านมาหลังจากการต่อสู้กับโรคมะเร็ง เขาจากไปด้วยวัย 56 ปี

การเสียชีวิตของ สตีป จ็อปส์ ถูกประกาศเมื่อวันพุธผ่านทางเว็บไซต์ Apple.com ทางบริษัทได้เปิดให้ผู้คนร่วมส่ง "ความรำลึก ความทรงจำ และถ้อยคำไว้อาลัย" ไปยัง [email protected]

ในเว็บไซต์ APPLE กล่าวว่า "APPLE ได้สูญเสียผู้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล อัจฉริยะผู้สร้างสรรค์ และโลกได้สูญเสียบุคคลที่น่าอัศจรรย์ไป" ในแถลงกล่าว "พวกเราผู้ซึ่งโชคดีจากการได้ร่วมงานและรู้จักเขามากขึ้นนับเป็นการสูญเสียเพื่อนรักและที่ปรึกษาผู้สร้างแรงบันดาลใจ สตีฟ จากไปโดยเหลือบริษัทที่มีเพียงเขาคนเดียวที่สร้างมันขึ้นมาได้ ดวงวิญญาณของเขาจะอยู่ในฐานะของผู้ก่อตั้ง Apple ไปตลอดกาล"

จ็อบส์ ถอนตัวจากหน้าที่ CEO ของ Apple เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยเขาเปิดเผยว่าเขาไม่สามารถทำหน้าที่ของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นเวลานับปีที่เขาต่อสู้กับโรคมะเร็ง แต่จ็อบส์ก็ยังคงยืนยันว่าเรื่องสุขภาพของเขานั้นเป็นเรื่องส่วนตัว

การจากไปของ สตีฟ จ็อปส์ เป็นช่วงเวลาเพียงหนึ่งวันหลังจาก Apple เปิดตัวโทรศัพท์สมาร์ทโฟนตัวใหม่ล่าสุด iPhone 4S แม้ว่าปกติแล้ว จ็อบส์ จะเป็นคนดูแลกิจกรรมเกี่ยวกับมีเดียทั้งหมด แต่เขาก็ไม่สามารถปรากฏตัวในคีย์โน็ตล่าสุดได้ โดยผู้รับหน้าที่นั้นตกเป็นของ CEO คนปัจจุบัน Tim Cook

เป็นที่รู้จักกันดีว่าจ็อบส์เป็นพรีเซ็นเตอร์ที่มีพรสวรรค์ เขามีคาริสม่าที่ดึงดูดผู้คน ความกระตือรือร้น และประโยคทอง "One More Thing" ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในการทำเซอร์ไพรส์ของคีย์โน็ตในทุกครั้งที่เขาเปิดตัวสินค้าใหม่

หนึ่งในสินค้าเหล่านั้นคือ iPhone ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2550 ได้กลายเป็นโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในโลก ความสำเร็จของไอโฟนนั้นได้ส่งผลให้ Apple กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าการตลาดมากที่สุดในโลก

แต่ จ็อบส์ นั้นเป็นมากกว่านักขายทั่วไป เขาได้รับสมญานามที่ถูกเรียกเล่นๆว่า "อาณาเขตแห่งการบิดเบือนความจริง" (reality distortion field)" ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนรอบตัวเขา เขาเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์สินค้าที่เป็นไอคอนของบริษัท เขามีสิทธิบัตรการคิดค้นภายใต้ชื่อของเขาเองมากกว่า 300 ชิ้น

ภายใต้การนำของ สตีฟ จ็อปส์ ทำให้ Apple กลายเป็นบริษัทไอทีที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ก้าวขึ้นนำบริษัทคู่แข่งที่ยาวนานอย่าง Microsoft ความสำเร็จในครั้งนี้ยิ่งน่าทึ่งมากขึ้นเมื่อ Apple เกือบจะเป็นบริษัทที่เคยล้มละลายในตอนที่ จ็อบส์ เข้ามากอบกู้บริษัทในฐานะของ CEO เมื่อปี 2540

นอกจากการทำงานที่ Apple แล้ว จ็อบส์ ยังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทแอนิเมชั่นเจ้าของรางวัล Oscar อย่าง Pixar ผู้สร้างสรรค์ผลงานอย่าง 'Toy Story', 'Up' และ 'The Incredibles' เขายังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท NeXT ซึ่งถูกควบรวมกิจการโดย Apple เมื่อช่วงปลายยุค 90 นำไปสู่การกำเนิดระบบ Mac OS X ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการของ Macintosh ในปัจจุบัน