หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: 10 คำถาม สำรวจให้ชัวร์! ก่อนจะซื้อยาคุมฉุกเฉิน  (อ่าน 1499 ครั้ง)

promotion

  • โจรสลัดจอมลุย / โคโนฮะกลุ่ม 7
  • *
  • กระทู้: 2506



ได้เวลาทำความรู้จักกับยาคุมอีกหนึ่งประเภท
อย่าง ยาคุมฉุกเฉิน แล้วมันคืออะไร
ต้องกินเฉพาะตอนฉุกเฉินเท่านั้นหรอแม่~



สาวๆ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับยาคุมกำเนิดแบบธรรมดา หรือที่เรียกอีกชื่อนึงว่า ยาคุมกำเนิดแบบรายเดือน ที่มีลักษณะเป็นแผง ประกอบไปด้วยตัวยา 21 เม็ด ซึ่งพี่โปรเคยพูดถึงกันมาแล้วในคอนเทนต์ ยาคุมกำเนิด 101 แต่ทุกคนรู้กันไหมว่า นอกจากยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนนี้แล้ว ยังมียาคุมอีกหนึ่งประเภทที่เรียกกันว่า ยาคุมฉุกเฉิน คือชื่อก็บอกอยู่แล้วแหละว่าฉุกเฉิน แต่กรณีฉุกเฉินที่ว่านี้คือยังไง สาวๆ ทุกคนควรรู้ไว้ เดี๋ยวปันโปรจะมาสรุปให้ฟังกัน





เตรียมตัวให้พร้อมก่อนซื้อยาคุมฉุกเฉิน

เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องเลือกใช้วิธีป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการทานยาคุมฉุกเฉินแล้วนั้น ก็อย่าเพิ่งรีบร้อนไปซื้อมากินกัน ค่อยๆ ตั้งสติและสำรวจสิ่งที่เกิดขึ้นให้ชัวร์ก่อน อย่างการเตรียมคำถามไปถามคุณหมอเพื่อความแน่ใจ รวมไปถึงความปลอดภัยต่อการกินยาคุมกำเนิด ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำมากๆ ลองไปดูลิสต์คำถามสำคัญที่เราควรที่จะต้องถามกันหน่อยดีกว่า


คำถามที่ต้องถามตัวเองก่อน

• ทำไมถึงต้องใช้ยาคุมฉุกเฉิน? มีการไม่สมยอมเกิดขึ้น รวมถึงไม่ได้มีการป้องกันตอนมีเพศสัมพันธ์หรือเปล่า

• หากมีการป้องกันโดยใช้ถุงยางแล้ว ทำไมถึงยังไม่มั่นใจแล้วไปเลือกใช้ยาคุมฉุกเฉิน?

• มีการผิดพลาดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์เกิดขึ้นไหม?  โดยเฉพาะที่เกิดจากวิธีที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "แตกนอก" ซึ่งเคสนี้ถือว่าไม่ปลอดภัย

• ได้นับวันไข่ตกก่อนการมีเพศสัมพันธ์หรือไม่? เพราะนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโอกาสตั้งครรภ์ได้นะ



คำถามที่ "อย่าลืม" ถามเภสัชและคุณหมอ

• บอกความต้องการในการซื้อยาคุมของเราไปให้ชัด เพื่อที่จะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง

• เคยกินหรือไม่เคยกินมาก่อน บอกไปตามความจริง

• สอบถามวิธีการกิน ซึ่งตรงนี้เภสัชจะอธิบายเราอยู่แล้ว แม้เคยกินมาก่อนก็ตาม แต่ถ้าเราไม่เข้าใจจริงๆ ก็สามารถถามเพิ่มเติมได้เลยนะ

• มีอาการข้างเคียงอะไรเกิดขึ้นไหม หลังจากกินยาคุม

• ในกรณีที่กินยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว จะรู้ได้ยังไงว่าเราไม่ท้อง

• ในคนที่มีโรคประจำตัว หรือแพ้ยาอะไรอยู่ อย่าลืมถามคุณหมอหรือเภสัชไปด้วยว่าสามารถกินยาคุมได้ไหม มีผลข้างเคียงอะไรหรือไม่




ยาคุมกำเนิดแบบรายเดือน vs. ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน

ก่อนจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ มันง่ายกว่าถ้าเราวางแผนไว้ถึงการคุมกำเนิดตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งวิธีที่ง่ายและปลอดภัยก็คือการทานยาคุมกำเนิดแบบรายเดือน แต่การกินยาคุมกำเนิดในรูปแบบนี้จะต้องมีวินัยและสม่ำเสมอ คือควรกินยาเวลาไหนก็ควรจะต้องกินเวลานั้น ไม่ใช่ว่าลืม หรือกินช้า-เร็วกว่าเวลาที่กำหนด และจะต้องไม่ลืมว่ายาคุมกำเนิดนี้สามารถป้องกันได้เพียงการตั้งครรภ์เท่านั้น ไม่ครอบคลุมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นะ

และสำหรับยาคุมกำเนิดอีกหนึ่งประเภท ที่ควรจะต้องรู้และศึกษาเอาไว้นั่นก็คือ ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน ซึ่งยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนี้มีจุดประสงค์ในการป้องกันหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว ปริมาณและระยะเวลาในการกินจะแตกต่างจากยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนโดยสิ้นเชิง ทั้งยังไม่แนะนำให้ทานบ่อย จุดนี้ต้องระวังมากๆ เพราะอาจมีผลต่อสุขภาพได้



"จุดประสงค์ของยาคุมฉุกเฉิน คือมีไว้สำหรับเวลาเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน"


อาทิเช่น การลืมกินยาคุมกำเนิดติดต่อกันหลายวัน แล้วเผลอไปมีเพศสัมพันธ์แบบไม่พร้อม หรือถุงยางเกิดรั่วหรือแตกขึ้นมาระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ง่ายๆ เลยก็คือ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตามที่ทำให้เกิดความผิดพลาดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ขึ้นมาแบบชนิดที่ว่าไม่พร้อมและต้องการป้องกันอย่างเร็วที่สุด ตัวช่วยอย่าง ยาคุมฉุกเฉิน นี้สามารถช่วยทุกคนได้






นอกจากความแตกต่างกันในเรื่องของ ความด่วน ในการใช้ยาคุมแล้ว ยังมีความแตกต่างในเรื่องของ 'จำนวนยา' ที่ต้องกินอีกด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากับแผงยาคุมแบบภาพซ้ายมือกัน แต่ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินนั้น มีเพียงแค่ 2 เม็ด เท่านั้น



• ทำไมถึงต้องเป็น 2 เม็ด?

สืบเนื่องมาจากความฉุกเฉินของมัน ที่ทำให้ในปริมาณตัวยานั้นเต็มไปด้วยปริมาณฮอร์โมนที่มีเยอะกว่ายาคุมกำเนิดแบบรายเดือนหลายเท่า ซึ่งการที่ร่างกายได้รับปริมาณฮอร์โมนที่มากเกินไป อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ และยิ่งถ้าได้รับในปริมาณมากๆ ติดต่อกันจนเกือบจะเทียบเท่าการกินยาคุมกำเนิดแบบปกติแล้วนั้น จะยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเนื้องอกได้

ปกติแล้วในคนที่เป็นเนื้องอก ขนาดของเนื้อมักจะใหญ่ขึ้นตามระดับฮอร์โมนที่ร่างกายได้รับ และถึงแม้ว่า
พี่โปรโมชั่นจะยังไม่เห็นเอกสารยืนยันชัดเจนว่าการกินยาคุมฉุกเฉินเยอะๆ จะทำให้เป็นโรคเนื้องอก แต่ก็ถือว่าการที่ร่างกายได้รับปริมาณฮอร์โมนที่มากเกินไปนั้นอยู่ในระดับที่เสี่ยงต่อการทำให้เกิดเนื้องอกขึ้นมาได้



"ดังนั้นปริมาณที่ทางการแพทย์แนะนำให้ทานต่อครั้งคือจะไม่เกิน 2 เม็ด"


ต่อให้ไปซื้อตามร้านขายยาที่ขายกันทั่วไป ทางร้านก็จะจัดมาให้เราแค่ 2 เม็ดเท่านั้น ซึ่งถ้าคิดเป็นเดือน ใน 1 เดือนร่างกายไม่ควรได้รับยาคุมฉุกเฉินที่มากเกินกว่า 4 เม็ด ถึงจะอยู่ในระดับที่ปลอดภัยและไม่เป็นอันตราย

ซึ่งโดยปกติแล้วการทานยาคุมฉุกเฉินแต่ละครั้ง
ร่างกายควรจะได้รับยาในจำนวนทั้งสิ้น 2 เม็ดอยู่แล้ว คือหลังมีเพศสัมพันธ์ทันที 1 เม็ด (หรือภายใน 72 ชั่วโมง) กับอีกหนึ่งเม็ดหลังจากที่ร่างกายได้รับยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง ถึงจะให้ผลดีและมีประสิทธิภาพต่อการคุมกำเนิดมากที่สุด แต่ล่าสุดก็ได้มียาคุมฉุกเฉินแบบเม็ดเดียวออกมาแล้ว (ก็คือรวบ 2 เม็ดให้อยู่ในเม็ดเดียว) เพื่ออำนวยความสะดวกและป้องกันการลืมกินยา แต่ยังไงก็อย่าลืมปรึกษาเภสัชและคุณหมอผู้จ่ายยากันดูอีกทีนะ



• ยาคุมฉุกเฉิน คุมได้แน่ๆ ใช่ไหม?

ต่อให้ได้ชื่อว่าเป็นยาคุมแต่ก็อาจจะควบคุมไม่ได้เสมอไป หากเรากินยาช้าเกินไปกว่าระยะเวลาที่กำหนด หรือเกิน 72 ชั่วโมง, กินช่วงใกล้ไข่ตก หรือผู้ที่กินนั้นมีร่างกายที่ใหญ่ มี BMI เกิน 25 สาเหตุต่างๆ เหล่านี้อาจจะส่งผลทำให้ตัวยามีประสิทธิภาพลดลงได้ เพราะฉะนั้นท่องกันเอาไว้ ยาคุมฉุกเฉิน ยิ่งกินเร็ว ยิ่งดี ยิ่งป้องกันนาจา






• หลังจากกินยาคุมฉุกเฉินไป จะรู้ได้ยังไงว่าไม่ท้อง

โดยปกติแล้ว หลังจากที่เรากินยาคุมฉุกเฉินไปประมาณสัก 1 สัปดาห์ ประจำเดือนก็จะมาตามปกติ โดย
พี่promotion ให้ข้อสังเกตุว่าถ้าหากสาวๆ คนไหนที่ประจำเดือนไม่มา ก็อาจจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นหากกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว ภายใน 1 สัปดาห์ประจำเดือนยังไม่มา ปันโปรแนะนำให้รีบไปหาคุณหมอเพื่อทำการตรวจดูนะ



• ผลข้างเคียงของการกินยาคุมฉุกเฉินมีไหม?

ตอบได้ตรงนี้เลยว่า มีนะ ในผู้ที่กินยาคุมฉุกเฉินโดยส่วนมากมักจะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เลือดออกกะปริบกะปรอย ประจำเดือนมาน้อย หรือบางคนมามากกว่าปกติ หากใครมีอาการเหล่านี้นี่อาจจะเป็นผลข้างเคียงจากการกินยาคุมกำเนิดก็ได้น้า




ย้ำกันอีกที ใครที่เหมาะกับการกินยาคุมฉุกเฉิน


คนที่เหมาะกับการกินยาคุมฉุกเฉินนั้น ก็คือคนที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ อาทิ ถุงยางรั่วหรือแตก รวมไปถึงคนที่ไม่เคยกินยาคุมแบบปกติกันมาก่อน แล้วเผลอไปมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน แล้วที่สำคัญก็คือ ยาคุมฉุกเฉินจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากได้รับการกินทันที หรือภายใน 72 ชั่วโมง และต้องกินเม็ดต่อไปหลังจากกินเม็ดแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง ถึงจะได้ผลดีที่สุดนะจ๊ะ

และไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉินบ่อยเกินไป เดือนนึงกินได้ไม่เกิน 2 ครั้ง หรือ 4 เม็ด (ในกรณีที่เป็นยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด) เพราะในยาคุมฉุกเฉินนั้นมีปริมาณฮอร์โมนที่สูงมาก และการได้รับปริมาณฮอร์โมนที่มากเกินไปอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนั้นถ้าไม่ฉุกเฉินจริงๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงการกินยาคุมฉุกเฉินจะเป็นการดีที่สุด

ที่สำคัญคือต้องรู้จักป้องกัน การหวังจะพึ่งยาคุมอย่างเดียวอาจจะช่วยได้ก็จริงอยู่ แต่ไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว และที่สำคัญคืออย่าลืมปรึกษาเภสัช, แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อยาคุมมากินกันนะ