หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: ฟอกฟันขาวอันตรายหรือไม่ มาดูกัน  (อ่าน 1889 ครั้ง)

Thanitanitan

  • พลทหาร / นักเรียนนินจา
  • *
  • กระทู้: 26
ฟอกฟันขาวอันตรายหรือไม่ มาดูกัน
« เมื่อ: พฤ. 29 ส.ค. 2019 เวลา 16:38:57 »
การ ฟอกสีฟัน หรือ ฟอกฟันขาว เป็นการเปลี่ยนสีฟันที่ขุ่นหมอง ให้กลับมาขาวดูสวยสดใส โดยใช้ผลิตภัณฑ์หรือสารต่างๆสำหรับฟอกสีฟันดังเช่นว่า Hydrogen peroxide ไปทำปฏิกิริยาทำให้สารที่เคลือบบนฟันหรือในเนื้อฟันแตกตัวออก และก็ทำให้ฟันดูขาวขึ้น โดยไม่ส่งผลต่อเคลือบฟันรวมทั้งโครงสร้างของฟัน การ ฟอกสีฟัน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีฟันเหลือง หรือฟันสีคล้ำ ขุ่น ที่ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุมาจากคราบเปื้อนฟัน หรือเป็นสีฟันธรรมชาติ และก็ยังเป็นวิธีซึ่งสามารถทำเองถึงที่เหมาะบ้าน หรือไปทำที่คลินิกทันตกรรมก็ได้


การฟอกสีฟันขาวมีกี่วิธี?
การฟอกฟันขาวแบ่งได้ 5 วิธี ได้แก่

การฟอกฟันขาวแบบ In-office power bleaching

  • เป็นการฟอกสีฟันที่คลินิกโดยหมอฟัน โดยใช้สาร Hydrogen peroxide เข้มข้นสูงโดยประมาณ 35% ซึ่งคลินิกทันตกรรมแต่ละที่อาจมีวัสดุและก็เทคโนโลยีต่างกันไป เป็นต้นว่า การใช้เลเซอร์ฟอกสีฟัน การใช้แสงสว่างเย็น หรือการใช้รังสี UV เป็นต้น

การฟอกฟันขาวแบบ At-home bleaching

  • เป็นการฟอกสีฟันที่บ้านซึ่งทำได้ด้วยตนเอง โดยปกติจะใช้สารฟอกสีฟันเป็นHydrogen peroxide ความเข้มข้นต่ำ ราว 10% ร่วมกับการใช้เครื่องใช้ไม้สอยอื่นๆซึ่งการฟอกสีฟันด้วยตัวเองอาจมีการเสี่ยง จะต้องขอคำแนะนำหมอฟันก่อนเสมอ

การฟอกฟันขาวแบบ In-office assisted bleaching

  • เป็นการฟอกสีฟันที่คลินิกร่วมกับทำด้วยตัวเอง ซึ่งใช้ในเรื่องที่สีฟันเริ่มต้นเหลืองหรือเข้มมากมาย โดยทันตแพทย์จะเริ่มจากการใช้ Hydrogen peroxide เข้มข้นสูง เพื่อฟันขาวขึ้นในระดับหนึ่ง หลังจากนั้นจึงใช้วิธีฟอกสีฟันเองที่บ้านโดยใช้ Hydrogen peroxide ความเข้มข้นต่ำ สลับกันไปกระทั่งฟันขาวดูดีและก็สดใสตามต้องการ

การฟอกฟันขาวแบบ Over-the-counter bleaching

  • เป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันสำเร็จรูป ซึ่งมีวางจำหน่ายทั่วๆไปโดยผลิตภัณฑ์ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะมี Hydrogen peroxide ความเข้มข้นต่ำเป็นส่วนประกอบ อาทิเช่น เจลฟอกสีฟัน ยาสีฟันรวมทั้งน้ำยาบ้วนปากสำหรับฟันขาว ซึ่งหาซื้อมาใช้เองได้โดยไม่ต้องหารือทันตแพทย์ก่อน

การฟอกฟันขาวแบบ Walking bleaching

  • เป็นการฟอกสีฟันเฉพาะซี่ ซึ่งใช้ในกรณีที่ฟันตาย โดยทันตแพทย์จะใส่สารฟอกสีฟันเข้าไปในตัวฟันซี่นั้นๆและก็ปิดทางเข้า สารฟอกสีฟันจะช่วยทำให้ฟันซี่ดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วเบาๆขาวขึ้นเรื่อยๆรวมทั้งถ้าฟันยังมีสีคล้ำอยู่ก็สามารถเพิ่มสารฟอกสีฟันเข้าไปเพิ่มได้

ผลกระทบจากการฟอกฟันขาว
ผลกระทบที่มักพบที่สุด คืออาการเสียวฟันซึ่งจะเกิดขึ้นในทีแรกๆและก็มีลักษณะอาการอยู่โดยประมาณ 1 – 3 วัน แล้วก็ค่อยๆหายไป อาการเสียวฟันมีเหตุที่เกิดจากการที่น้ำยาฟอกสีฟันไปทำให้เม็ดสีของฟันแตกตัวออกเป็นโมเลกุลเล็กๆทำให้เนื้อฟันถูกดึงน้ำออกไปด้วย และไปกระตุ้นปลายประสาทในเนื้อฟันที่ไวต่ออุณหภูมิ ทำให้เกิดความรู้สึกเสียวฟัน ซึ่งเป็นอาการปกติที่จะหายไปเอง ก็เลยไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจ
การดูแลข้างหลังการฟอกสีฟัน

  • ชำระล้างช่องปากตามธรรมดา โดยการแปรงฟัน ไหมขัดฟัน แล้วก็บ้วนปากเสมอๆ อย่างต่ำวันละ 2 ครั้ง และก็บางทีอาจใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโพแทสเซียมไนเตรต เพื่อคุ้มครองป้องกันอาการเสียวฟันด้วย
  • เลี่ยงของกินและก็เครื่องดื่มที่ส่งผลให้เกิดสีและก็รอยเปื้อนบนฟัน เป็นต้นว่า ชา กาแฟ ไวน์ ซอส ลูกอม แล้วก็หากจำต้องดื่มเครื่องดื่มดังกล่าว ควรที่จะใช้หลอดดูดแทนการดื่มจากแก้ว
  • งดทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด ดังเช่น ผลไม้รสเปรี้ยว และของกินที่ร้อนหรือเย็นเกินไป
  • งดสูบบุหรี่ขั้นต่ำ 1 อาทิตย์ หลังการฟอกสีฟัน
  • แม้มีอาการเสียวฟันมากมาย สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
  • การปกป้องคุ้มครองรอยเปื้อนฟัน
  • การฟอกสีฟันมิได้ทำให้ฟันขาวถาวร แม้กระนั้นฟันที่ผ่านการฟอกจะมีสีคล้ำขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกำเนิดรอยเปื้อนสะสมบนฟัน โดยเหตุนั้นเราสามารถคุ้มครองป้องกันรอยเปื้อนฟัน เพื่อให้ฟันขาวดูดีและก็สดใสอยู่กับเรานานได้ดังต่อไปนี้
  • ทำความสะอาดฟันและโพรงปากให้ดีอยู่ตลอดโดยการแปรงฟันอย่างถูกแนวทางอย่างต่ำวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันแล้วก็บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ เพื่อลดการสะสมของคราบหินปูนและแบคทีเรียบนเนื้อฟัน
  • ลดการรับประทานอาหารรวมทั้งเครื่องดื่มที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดราบบนฟัน เช่น ชา กาแฟ ทอฟฟี่
  • หลบหลีกการสูบยาสูบ
  • พบ|หมอฟันเพื่อตรวจร่างกายฟันอย่างน้อยปีละ 1 – 2 ครั้ง