(https://i.ibb.co/ZWJzwjX/1.jpg)
หยุดเผือกไม่ได้จริง ๆ แม๊ !!!
ตลอดทั้งสัปดาห์จนถึงวันนี้ ชาวโซเชี่ยลยังคงเกาะติดสถานการณ์ กรณี 'แตงโม นิดา' พลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยาจนเสียชีวิต แม้เวลาจะผ่านมากว่า 12 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป และมีหลายประเด็นยังเป็นที่ถกเถียงถึงความสมเหตุสมผล และความเป็นไปได้ด้วย
โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม Twitter ที่ #แตงโม ติดโปร (https://www.punpro.com/)เทรนด์อันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ด้านสื่อมวลชนก็นำเสนอประเด็นนี้อย่างไม่หยุดหย่อนและไม่มีพัก อย่างรายการโหนกระแส ของหนุ่ม กรรชัย ที่ทำหลายคนต้องอุทานร้อง อุ๊ย! กับการ 'ไขปริศนา แตงโม ตกเรือชีวิต' จนถึงรายการ 'หอนกระแส กับทนายตั้ม' ในวันเสาร์ที่ผ่านมา
ด้วยอุบัติเหตุในครั้งนี้มีข้อพิรุธและเงื่อนงำอยู่หลายอย่าง รวมถึงตัวละครต้องสงสัยที่ผุดขึ้นอย่างกับดอกเห็ด ชาวโซเชี่ยลอย่างเราเลยต้องพักปัด Tinder แล้วสวมบทคุณฐปนีย์ติดตามข่าวผ่านทุกแฮชแท็กแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะกลัวจะตกกระแสและคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง แต่รู้ไหมว่า อาการชอบเผือกแบบนี้เสี่ยงเป็นโรค FOMO ?
(https://i.ibb.co/vzBTtbD/2.jpg)
'FOMO' ภัยร้าย อันตรายจากนิสัยชอบเผือก
เกิดเป็นชาวโซเชี่ยลในยุคนี้แทบไม่เคยได้พักร่าง แถมโปรโมชั่น (https://www.punpro.com/blog)โรคร้ายต่างเรียงหน้าเข้ามาทักทายกันไม่เว้นวัน ทั้งออฟฟิศซินโดรม กรดไหลย้อน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ล่าสุดก็พักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะต้องผันอาชีพจากพนักงานบริษัทไปเป็นนักข่าวและนักสืบอย่างเต็มตัว แอบแฝงตัวอยู่ในทวิตเตอร์ทั้งวันทั้งคืน เพื่ออัพเดทข้อมูลของชาวบ้าน โดยเฉพาะกรณี 'แตงโม นิดา' ที่เช็คแบบนาทีต่อนาทีไม่ให้ตกขบวนรถทัวร์ หรือนี่จะเป็นอาการของโรค FOMO
Gica Antigen Test Cassette ATK ชุดตรวจ 2in1
[ตรวจได้ทั้ง น้ำลาย/แยงจมูก] ชุดล่ะ 70 บาท
ยก 10 SET คลิ๊กเลย!!
V
V
V
(https://i.ibb.co/hZXFzGP/271774042-4711165912334846-2177182602869404576-n.jpg) (https://www.phathavie.com/product/16/%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87-%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%81-gica-antigen-test-cassette-atk-%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88-2in1-%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%9419-1-%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94-%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88-2)
จำนวนจำกัด..พกติดไว้เที่ยวไหนก็สบายใจ
รู้จัก 'FOMO' อันตรายแค่ไหนแม๊ ?
FOMO (Fear Of Missing Out) คือ อาการของคนที่กลัวการตกข่าว กลัวตกกระแส กลัวตก promotions (https://www.punpro.com/coupons) อีกทั้งกลัวการไม่เป็นที่ยอมรับ และกลัวไม่ได้เป็นคนสำคัญ จึงต้องคอยอัพเดทเช็คข่าวสารตลอดเวลา จนทำให้เกิดความเครียด
อาการนี้พบมากในหมู่ 'วัยรุ่น' เพราะเป็นช่วงที่สมองส่วนอารมณ์กำลังพัฒนา แต่สมองส่วนเหตุผลยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงเป็นวัยที่กำลังค้นหาตัวเอง อยากเป็นที่ยอมรับ และอยากมีความสำคัญ โดยส่วนใหญ่คนที่มีอาการ FOMO มักจะไม่รู้ตัวเอง เพราะคิดว่าเป็นการติดตามข่าวสารปกติไม่ได้ถึงขั้นเสพติด นอกจากนี้อาการ FOMO ยังเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาและโรคร้ายอื่น ๆ ดังนี้
โรคหลงตัวเอง
รับฟังคนอื่นได้น้อยลง
โกรธแค้นง่าย เมื่อไม่ได้ดั่งใจ
โรคซึมเศร้า
(https://i.ibb.co/hYpKNGL/3.jpg)
เช็ค! เข้าข่ายอาการ 'FOMO' ไหมแม๊ ?
- อารมณ์แปรปรวนง่าย หงุดหงิด และกระวนกระวาย เมื่อไม่ได้เล่นโซเชี่ยล
- ใช้เวลาไปกับสมาร์ทโฟน ทั้งเช็ค แชร์ ไลค์ ไถฟีด มากกว่า 6 ชม. ต่อวัน
- เสพติดแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Facebook, Twitter, Instagram, Tiktok หรืออื่น ๆ
- กลัวตกข่าว กลัวตก promotion (https://www.punpro.com/promotion) และไม่ทันกระแส ต้องตามเก็บทุกแฮชแท็ก และทุกดราม่า
- กังวลเมื่อถูกคอมเมนต์ในเชิงลบ หรือโดนตำหนิในโซเชี่ยลมีเดีย
- ชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนบนโลกออนไลน์ และรู้สึกด้อยค่าในตัวเอง
โดยจากการวิจัยพบว่า 64% มีอาการ FOMO เมื่อไม่ได้เล่นอินเตอร์เน็ต โดย 80% เป็นชาวเอเชีย และอีก 56% กลัวการตกข่าว หากไม่ได้เข้ามาเช็คหรืออัพเดทบ่อย ๆ
อ่านบทความฉบับเต็มคลิ๊กเลย >>>
อาการFOMO (https://www.punpro.com/p/fomo-drama-news-tangmo-nida)
(https://i.ibb.co/TYDB0WV/4.jpg)
โรค 'FOMO' รักษาได้ไหมแม๊ ?
บอกเลยว่า โรค FOMO สามารถรักษาให้หาย และดีขึ้นได้ ถ้าทำตาม 6 ข้อด้านล่างนี้
- ยืดอกยอมรับแบบแมน ๆ ว่าตัวเองเสพติดโซเชี่ยลมีเดีย
- หยุดเถิดอานนท์ 'วางโทรศัพท์' แล้วหางานอดิเรกทำซะ
- ใช้เวลากับคนรอบข้างมากขึ้น พักทักแชทแล้วไปพบกันในโลกความจริง
- ยกห้องนอนให้เป็นพื้นที่ 'No Mobile' และมีไว้สำหรับพักผ่อน 100%
- ละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ทุก ๆ 2 ชม. แล้วเปลี่ยนไปอ่านหนังสือแทน
- ตั้งเป้าทำ Social Detox เริ่มต้นงดจากรายชั่วโมง แล้วค่อย ๆ ขยับไปเป็นวันหรือเดือน
นอกจากอาการ 'FOMO' ที่มากับการเสพติดโซเชี่ยลมีเดียมากจนรบกวนการดำเนินชีวิตแล้ว ชาวโซเชี่ยลมีเดียทั้งหลายอาจสุ่มเสี่ยงต่อ 'Headline Stress Disorder' หรือภาวะเครียดและวิตกกังวลจากการเสพข่าว หรือดราม่าผ่านสื่อต่าง ๆ มากเกินไป หรือจะเรียกง่าย ๆ ว่า ชอบเผือกเรื่องชาวบ้านมากนั่นเอง ซึ่งภาวะนี้สามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ จนนำไปสู่อาการไม่พึงประสงค์ เช่น ใจสั่น แน่นหน้าอก นอนไม่หลับ วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือโกรธได้ เพราะฉะนั้นควรตามเผือกแต่พอดี
แต่ถ้าลองทำตามคำแนะนำแล้วยังเครียดมาก เปย์เป้ขอแนะนำว่า ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ อย่างสายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือ chatbot 1323 หรือ ปรึกษานักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์ ด้วยรักและห่วงใยนะแม๊ !!!
ที่มา: สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์, RAMA Channel, กรุงเทพธุรกิจ