หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: 40 ยังแจ๋ว ! ป้ายยาหนัง - ซีรีส์น้ำดี ที่ตีแผ่ชีวิตวัยขึ้นเลข 4 อย่างมีคุณภาพ  (อ่าน 718 ครั้ง)

promotion

  • โจรสลัดจอมลุย / โคโนฮะกลุ่ม 7
  • *
  • กระทู้: 2363



ดูหนัง-ซีรีส์วัยใสจนไม่รู้ว่าจะไถดูอะไรแล้ว ไหนขอลองเปลี่ยนบรรยากาศมาดูหนัง-ซีรีส์เรื่องราวของคนวัย 40 และ 40+ กันดูบ้าง ซึ่งวัย 40+ ที่ว่าไม่ได้หมายถึงตัวละครพ่อหรือแม่ที่มาแซม ๆ อยู่ในบางฉากเท่านั้นนะ แต่พวกเค้าเหล่านี้เป็นถึงบรรดา ตัวเอก  ที่รับรองว่าน่าจะโดนใจแฟนหนัง และซีรีส์กันถ้วนหน้าแน่นอน

สำหรับความต่างของสตอรี่ตัวละครรุ่นใหญ่ กับวัยรุ่นที่เปย์เป้อยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนลองสังเกตกันดูนั่นก็ได้แก่ มู้ดแอนด์โทนของเนื้อหา ที่หลัก ๆ จะเน้นไปที่วิถีชีวิตที่ดูจริงจังและความรู้สึกที่โตขึ้น แต่ก็จะมีบางเรื่องที่เปย์เป้คัดมาปรับอารมณ์ไม่ให้เพื่อน ๆ เครียดกันมากจนเกินไป (ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นขำก๊ากแทน) โม้ไว้ก่อนเลยว่ามีหลายเรื่องเลยที่ทางเราอยากจะป้ายยา อ่ะ สายดูหนัง ดูซีรีส์ทั้งหลาย เชิญลอกการบ้านจากเปย์เป้ไปโล้ดดด





ส่องชีวิตวัยเลข 4
กับ 14 หนัง-ซีรีส์ ที่มีตัวเอกอายุ 40 






A World of Married Couple

ประเดิมด้วยซีรีส์เกาหลีที่มาแรงมากในปี 2021 ที่ผ่านมา และถือได้ว่าเป็นซีรีส์ที่สร้างชื่อให้กับนักแสดงอย่าง ฮันโซฮี ที่มารับบท เมียน้อยได้สมบทบาท เรียกว่าจัดโปรโมชั่นกระชากคนดูให้มีอารมณ์ร่วมได้ดีมาก สำหรับ A World of Married Couple เป็นการหยิบเอาซีรีส์สัญชาติอังกฤษอย่าง Doctor Foster มารีเมคใหม่ พร้อมตีแผ่เรื่องราวในครอบครัวที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบของ จีซอนอู แพทย์หญิงวัย 40 ปี ที่จู่ ๆ เกิดมีรอยร้าวขึ้นเมื่อสามีของเธอเผลอไป กุ๊กกิ๊กกับเด็กสาว อย่าง ดาคยอง ที่ในมุมของผู้เป็นสามีอย่าง อีแทโอ นั้นมองว่าดาคยองคือสิ่งที่จะมาเติมเต็มชีวิตที่จืดชืดของเค้าให้มีสีสันขึ้นมาได้อีกครั้ง

เปย์เป้บอกเลยว่าเพื่อน ๆ คนไหนที่อาจจะเคยได้ยินกระแสของซีรีส์เรื่องนี้กันมานาน แต่ยังไม่มีโอกาสได้ดูเลยสักครั้ง ก่อนที่จะเริ่มดูอยากให้เตรียมยาดมไว้ใกล้มือ เพราะบางฉาก อาจจะทำให้ กุมขมับจนลมแทบจับ เลยทีเดียว 










Lost in Translation

อันนี้ขอขึ้นคำเตือนไว้ก่อนว่า คนที่จะดูหนังเรื่องนี้ได้จะต้อง ใจเย็น ๆ  เพราะบรรยากาศของหนังจะแอบนิ่ง ๆ ไปสักนิดนึง เปย์เป้แนะนำว่าต้องมีสมาธิกับการดูให้มาก ๆ แล้วเราจะพบว่า หนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นหนังที่น่าเบื่อ แต่มันเป็นหนังที่มีอารมณ์ของความเหงา อัดแน่นอยู่ในทุกอณูของเหตุการณ์ต่างหาก

Lost in Translation บอกเล่าเรื่องราวของ 2 ตัวละคร ได้แก่ บ็อบ นักแสดงรุ่นใหญ่ที่ชีวิตกำลังอยู่ในช่วงขาลงสุด ๆ ต้องเดินทางมาถ่ายทำโฆษณาไกลถึงประเทศญี่ปุ่น กับชาร์ลอตต์ นักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบหมาด ๆ ได้ตีตั๋วเครื่องบินตามแฟนมาทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น โดยทั้งบ็อบ และชาร์ลอตต์นั้น หลังจากที่ถูกปล่อยทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ระหว่างพักเบรกจากงาน รวมถึงระหว่างที่รอแฟนไปทำงาน ทั้งสองคนได้ใช้โปรเหงา ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ทั้ง ๆ ที่เมื่อเราเอ่ยถึงประเทศนี้แล้ว เปย์เป้ว่าภาพในหัวของทุกคนไม่น่าจะเหงา แต่น่าจะมีกิจกรรมอะไรต่อมิอะไรให้ได้ทำเยอะแยะเลยมากกว่า โดยในหนังจะตัดสลับให้เราไปเห็นชีวิตของบ็อบที ชาร์ลอตต์ที จนกระทั่งทั้งสองคนได้โคจรมาพบกัน ในฐานะ เพื่อนคลายความเหงาของกันและกัน










Miss You Already

มาต่อกันที่หนังดีอีกหนึ่งเรื่อง ที่ตัวละครหลักเป็นเพื่อนซี้ที่มีอายุอยู่ในช่วง 30 ปลาย ๆ ไปจนถึง 40 ต้น ๆ (อันนี้ตัวหนังไม่ได้บอก แต่เปย์เป้ดูจากบทบาท รวมถึงครอบครัวของทั้งสองตัวละครเด้อ) โดยความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นอะไรที่ซี้ปึกมาตั้งแต่สมัยเรียนประถมด้วยกัน จนกระทั่งความสัมพันธ์ได้กินเวลายาวนานจนแต่ละคนโตเป็นผู้ใหญ่ คนนึงมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มีสามี มีลูกที่กำลังอยู่ในวัยประถมถึง 2 คน กับอีกคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับสามี ยังไม่มีลูก แต่มีความสุขดีมาก ๆ

จนกระทั่ง ข่าวร้าย  ได้นำพาให้ทั้งคู่ได้มารับรู้อะไรบางอย่างด้วยกัน ซึ่งนั่นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของบททดสอบมิตรภาพอันยาวนานระหว่างทั้งคู่ที่ดีมาก ๆ ขอกระซิบเตือนอีกรอบว่า ก่อนจะดูรีบไปหาทิชชู่มาวางไว้ใกล้ ๆ ตัวด้วย เพราะงานนี้บ่อน้ำตาแตกแน่ ๆ   










The 40-Year-Old Virgin

สลับโหมดกันแทบไม่ทัน จากที่ร้องไห้น้ำตาแตกมา ไหนขอเปลี่ยนมาเป็นสายคอมเมดี้ ดีต่อใจกันบ้าง ส่วนตัวเปย์เป้ชอบหนังเรื่องนี้เพราะนักแสดงนำอย่าง Steve Carell ที่กลับมารับบท หนุ่มหน้าตาย ที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะกันอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง The 40-Year-Old Virgin เรื่องนี้

โดยหนังเรื่องนี้ได้บอกเล่าเรื่องราวของหนุ่มใหญ่วัย 40 ปี ที่มีอาชีพเป็นพนักงานขายเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำห้างสรรพสินค้า โดยนิสัยของเค้าแอบจะดูเนิร์ดเบา ๆ ยกตัวอย่างเช่น การหมกหมุ่นอยู่กับกองหนังสือการ์ตูน ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร มีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในบ้าน จนเพื่อนของเค้าทนไม่ไหว อยากจะช่วยให้เค้าหลุดออกมาจากกรอบเดิม ๆ เลยจะจัด promotion ด้วยการวางแผนจะกระชาก 'จิ้น' ให้กับเพื่อน บอกเลยว่าหนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่บ้าบอคอแตกมาก ดูไปอาจจะขำปนเวทนา แต่ใดใดก็คือการคีฟคาแรคเตอร์หน้าตายของ สตีฟ ยังได้ใจเปย์เป้อยู่จนถึงทุกวันนี้






Gica Antigen Test Cassette ATK ชุดตรวจ 2in1
[ตรวจได้ทั้ง น้ำลาย/แยงจมูก] ชุดล่ะ 70 บาท
ยก 10 SET คลิ๊กเลย!!
V
V
V





จะหมดแล้วน้า..ATK พกติดไว้เที่ยวไหนก็สบายใจ










My Mister

อะ หลังจากทางเราได้แนะนำหนังไปพอสมควร เปย์เป้ขอเปลี่ยนมาแนะนำซีรีส์ให้เพื่อน ๆ ได้ไปตามเก็บกันต่อบ้าง สำหรับ My Mister เรื่องนี้ มีอีกชื่อเรียกนึงว่า My Ahjussi  หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า คุณลุงของฉัน อุ๊ย ใครที่ชอบคนอายุมากกว่าเห็นทีจะต้องมากองรวมกันตรงนี้แล้ว

บอกเลยว่าแค่เห็นชื่อนักแสดงนำในเรื่องอย่าง ไอยู คะแนนความน่าดูก็เพิ่มขึ้นทันตา และยิ่งรู้ว่าไอยูจะต้องมารับบทบาทเป็นเด็กสาววัย 20 ที่ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวอะไรมาเยอะมาก คะแนนความน่าดูก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น ๆ แต่ดูแล้วเป้แอบหงุดหงิดอยู่เหมือนกันนะ ว่าทำไมโลกนี้ถึงต้องใจร้ายกับคน ๆ นึงได้ถึงขนาดนั้น แต่บอกเลยว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า อยู่ดี ๆ ก็เหมือนมีแสงสว่างส่องมาที่ปลายอุโมงค์ซะงั้น เพราะทันทีที่เธอได้เจอกับ เขา หนุ่มโสดวัยสี่สิบปี ที่ชีวิตผ่านอะไรมาเยอะไม่ต่างกัน ซึ่งการได้มาเจอกันของทั้งสองคนนั้น ต่อให้จะต้องมีเรื่องร้าย ๆ เข้ามา แต่ทุกคนเชื่อกันไหมว่า กำลังใจจากคน ๆ เดียวจะสามารถลบล้างความรู้สึกแย่ ๆ ทั้งหมดที่เคยอัดแน่นอยู่ในหัวเรากันได้เลย










Annie Hall

ถึงเวลาของภาพยนตร์ยอดเยี่ยมระดับตำนานที่เคยคว้า รางวัลออสการ์  มาแล้วอย่าง Annie Hall โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับและแสดงนำของ วูดดี อัลเลน นักแสดงยอดฝีมือที่เคยฝากผลงานมาแล้วหลายรูปแบบ

ในส่วนของเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นเกี่ยวกับตลกเดี่ยวไมโครโฟนวัย 40 ปี ที่ได้มีโอกาสนั่งทบทวนเรื่องราวเก่า ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ได้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเค้ากับ แอนนี่ เด็กสาวที่เข้ามาสร้างสีสันให้ชีวิตของเค้าเพียงแค่ชั่วคราว ก่อนที่ทั้งสองคนจะค่อย ๆ เฟดและแยกตัวกันออกไป อันนี้บอกเลยว่าใครที่มีโอกาสได้ดูจะพบว่าเนื้อหาของหนังเรื่องนี้มีความเรียลมาก ก็คือตีแผ่ชีวิตของมนุษย์คนนึงได้ดี เพราะทุกคนไม่มีทางเกิดมาแล้วประสบความสำเร็จกับทุกอย่าง แต่คนเราก็ต้องเจอกับความผิดหวังบ้าง ไม่ว่าจะเป็นความผิดหวังในเรื่องใดก็ตาม แทบจะไม่ต่างจากเรื่องราวของตลกเดี่ยวไมโครโฟนคนนี้เลย










Mom

มาเปลี่ยนเรื่องจริงจัง ให้กลายเป็นความสนุกสนานแบบไม่เครียด กับซีรีส์ที่เรียกเสียงฮาให้คนมาแล้วนักต่อนักอย่าง Mom ที่ได้นักแสดงสาวขวัญใจเปย์เป้อย่าง แอนนา ฟาริส มารับบทเป็นแม่ ประกบตัวละครแม่ และลูกสาวที่กำลังตั้งท้องของเธอ (ก็คือผนึกกำลัง 3 แม่ครัวไปเลยสิจ๊ะ) อ่านแค่นี้ก็พอจะเดากันได้ถึงความโกลาหลที่แฝงไปด้วยความฮา ดูแล้วจะนึกถึงบรรยากาศของซิตคอมเก่า ๆ  ที่หลายคนอาจจะกำลังคิดถึงกันอยู่

สำหรับเนื้อหาของซีรีส์เรื่องนี้แทบจะไม่ต้องใช้คำอธิบายอะไรมาก เพราะมันคือเรื่องของครอบครัวคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน  นั่นก็คือยาย แม่ และก็ลูก จนวันนึงคนเป็นแม่ดันรู้ว่า ลูกสาวของตัวเองได้ตั้งท้องขึ้นมา งานนี้คนเป็นแม่ กับยาย เลยต้องจัด promotions มาฮีลใจหลานสาวตัวเองกันยกใหญ่ และเห็นแบบนี้ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องราวสนุกสนานอะไรทำนองนั้นอย่างเดียว แต่ในทุกตอนของเค้าก็ได้สอดแทรกข้อคิดดี ๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิต การมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ป้องกัน รวมถึงเรื่องราวของชีวิตคู่ที่ได้สอดแทรกอยู่ในเนื้อหาเพียบ เปย์เป้รับประกันเลยว่านอกจากความสนุกแล้ว ทุกคนจะได้อะไรดี ๆ กลับไปเพียบแน่นอน










Lolita

ก่อนอื่นเปย์เป้ขอเล่าให้ฟังถึงฟีดแบคของหนังเรื่องนี้ให้ได้อ่านกันเล่น ๆ ก่อน สำหรับฟีดแบคของ Lolita ถูกมองได้ 2 แง่ คือ แง่บวก กับแง่ลบ อย่างในแง่บวกนั้น ยกตัวอย่างเช่น หนังดีมาก ดูแล้วฟินมาก นักแสดงดีมาก มู้ดแอนด์โทนดีมาก ฯลฯ แต่ทว่าในมุมของคนที่ไม่ชอบนั้นมองว่า พฤติกรรมของพระเอกมีความผิดปกติ  ไม่รู้ว่าเพื่อน ๆ เคยได้ยิน หรือรู้จักความหมายของ โลลิต้า ในเชิงชู้สาวกันมาก่อนหรือเปล่า เปย์เป้ขอรวบให้สั้น ๆ ก็คือ มันมีความหมายว่า กลุ่มคนที่ชอบ และคลั่งไคล้เด็กสาวเอามาก ๆ มากเกินกว่าคำว่าเอ็นดู และมากเกินไปจนน่ากลัว

ซึ่งในมุมของเปย์เป้ ตอนแรกที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ เปย์เป้ก็ดูแบบไม่ได้คิดอะไร คือดูด้วยจุดประสงค์เพื่อความบันเทิงล้วน ๆ โดยหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของหนุ่มใหญ่วัย 40+ ที่ได้ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ประเทศอเมริกา ซึ่งเค้าก็ได้มาอาศัยอยู่ในห้องเช่าของแม่หม่ายลูกติดคนนึง ที่เธอนั้นได้อาศัยอยู่กับลูกสาววัยรุ่นหน้าตาดีที่มีชื่อว่า โลลิต้า และก็อย่างว่า ด้วยความใกล้ชิดกันได้นำพามาซึ่งความรู้สึกดี ๆ ระหว่างเด็กสาวกับศาสตราจารย์หนุ่มใหญ่ จนกลายเป็นเรื่องราวอันใหญ่โตที่แม้แต่เปย์เป้เองก็คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะดำเนินมาถึงขั้นนี้ได้ ยังไงถ้าเพื่อน ๆ คนไหนอยากจะลองหามาดู ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการดูกันด้วยนะจ๊ะ






อ่านบทความฉบับเต็มคลิ๊กเลย >>>
ซีรีส์น้ำดี








Ghostbusters

บางทีชีวิตเราก็ไม่ได้ต้องการสาระตลอดเวลาจริงไหม ? อย่างหนังเรื่องนี้เปย์เป้ยกให้เป็น Top 10 ของหนังคอมเมดี้ในดวงใจ  และนอกจากจะเต็มไปด้วยบรรดานักแสดงที่เปย์เป้ชอบแล้ว ตัวหนังยังได้หยิบแฟรนไชส์บริษัทกำจัดผีในตำนานมารีเมคใหม่ ซึ่งก็ทำได้ดีมากจริง ๆ

Ghostbusters เป็นเรื่องราวของแก๊งเพื่อนสาววัย 40 ที่ได้แตกคอกันด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ก็ได้โคจรกลับมาพบกันอีกครั้ง โดยมีชนวนนั่นก็คือ การปราบผี ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเธอหลงใหลเป็นอย่างมาก และด้วยความอยากพิสูจน์ตัวเองให้สังคมภายนอกได้รับรู้ว่าผีมีจริง พวกเธอเลยได้ร่วมมือกันออกตามล่าและกำจัดผี เพื่อที่จะหาอะไรมาการันตีกับคนรอบข้างให้ได้รู้จักและเห็นฝีมือของพวกเธอว่านี่มันไม่ธรรมดาเลย โดยเนื้อหามีอะไรให้เราดูเยอะมาก (และก็ฮามาก) ดูแบบขำ ๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรได้เลย อ้อ งานนี้ไม่ได้มีแค่นักแสดงสาว ๆ เท่านั้นนะ แต่ยังพ่วงพี่คริส เฮมส์เวิร์ธมารับบทเป็นผู้ช่วยหนุ่มสุดเนิร์ดประกบสาว ๆ อีกด้วย










Crazy, Stupid, Love

มาต่อกันที่รักวุ่น ๆ ของชายหนุ่มวัย 40+ กันบ้าง แต่บอกก่อนว่างานนี้ถึงแม้เรื่องราวใน Crazy, Stupid, Love จะเน้นหนักไปที่เรื่องของครอบครัวก็ตาม แต่ทว่ามันก็ไม่ได้ซีเรียส หรือว่าเครียดขนาดนั้น สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นมาจาก คาล หนุ่มใหญ่วัยกลางคนที่จับได้ว่าภรรยาของเค้าแอบไปมีสัมพันธ์ลับกับเด็กในออฟฟิศ จนทำให้เค้าเสียใจ หนีไปนั่งย้อมใจตัวเองที่บาร์แล้วได้ไปเจอเพื่อนใหม่อย่าง เจคอป หนุ่มเจ้าชู้คนนึงเข้า

การระบายความในใจระหว่างชายหนุ่มแปลกหน้าทั้งสองคน เลยวายป่วงกลายเป็นความบันเทิงขึ้นมา และนอกจากเราจะได้รู้เรื่องราวในชีวิตของคาลกันแล้ว เรายังจะได้รู้เรื่องราวชีวิตของเจคอป พร้อมพ่วงด้วยตัวละครใหม่ ๆ อีกหลายตัว งานนี้บอกเลยว่า ไม่มีใครที่ชีวิตสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง แต่ไม่รู้ว่าคาลจะจัดการกับภรรยาเจ้าปัญหาของเค้ายังไง แต่บอกเลยว่างานนี้คอมเมดี้ และดราม่ามาเต็มแน่นอน !










This is 40

เห็นคอมเมดี้ ๆ แบบนี้ แต่ข้อคิดเค้ามีเพียบเลยน้า สำหรับ This is 40 เรื่องนี้เป็นการตีแผ่ชีวิตของมนุษย์แม่วัย 40 ที่ถึงแม้ว่าจะมีฉากหน้าเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มีทั้งสามีที่ดี ลูก ๆ ที่น่ารัก แต่ทว่าเบื้องหลังนี่สิ... ปสดมากแม่   

ที่เปย์เป้ชอบอย่างนึงเลย ก็คือ หนังได้ตีแผ่ชีวิตของมนุษย์แม่ (และเมีย) ออกมาได้ดี ไม่ได้ดูเป็นละครจนเกินไป คือมันไม่แปลกหรอกถ้าชีวิตของคน ๆ นึงที่ใช้ชีวิตมาจนถึงจุดที่ตัวเองขึ้นเลข 4 แล้วจะมีความวุ่นวาย รวมถึงภาระหน้าที่ให้ต้องจัดการ แต่หนังก็ไม่ได้ถ่ายทอดให้เรารู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เครียด หรือไม่น่าเผชิญขนาดนั้น แต่สิ่งที่หนังทำ คือ การเปลี่ยนเรื่องเครียด ๆ เหล่านั้น ออกมาในมุมที่สนุกสนาน มีความตลกร้าย ดูแล้วไม่ทำให้รู้สึกกลัวกับชีวิตวัย 40 แต่มันทำให้เราเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเคลื่อนตัวเข้ามาต่างหาก










Dead to Me

สลับโหมดมาดูซีรีส์แนวสืบสวน - สอบสวนของคนวัย 40 กันต่อบ้าง อย่าง Dead to Me เรื่องนี้ เปย์เป้ค่อนข้างมั่นใจเลยว่าเพื่อน ๆ อาจจะไม่เคยเห็น หรือได้ยินชื่อกันมาก่อน แต่อยากให้ลองเปิดใจดู แล้วจะพบว่ามันสนุกมาก !

สำหรับซีรีส์เรื่องนี้เป็นการตีแผ่ชีวิตของผู้หญิง 2 คน  ที่ต่างก็มีเรื่องราวอะไรบางอย่างที่อยากลืม แต่ทำยังไงก็ลืมไม่ได้ ซึ่งเรื่องราวบางอย่างที่ว่านี้ก็ได้แก่ อุบัติเหตุ ที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อตัวละครทั้ง 2 ตัวเข้าไว้ด้วยกัน โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าอีกคนนึงมีความลับอะไรบางอย่างปิดบังเราอยู่ สำหรับใครที่อยากฟังเรื่องย่อแบบรวบรัด เรื่องราวนั้นมีอยู่ว่า จูดี้ หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ได้บังเอิญขับรถชนคนเสียชีวิต และเธอก็ได้ขับหนีไปด้วยความตกใจ เหตุการณ์ครั้งนี้มันตามหลอกหลอนเธอจนกระทั่งทนไม่ไหว ต้องสมัครเข้ากลุ่มบำบัดความเครียดและได้มาเจอกับ เจน ที่มีเหตุผลในเข้าร่วมกลุ่มนี้ก็เพราะว่าเธอต้องการจะมาระบายเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจ และตามหาตัวคนร้ายที่คร่าชีวิตสามีของเธอ  แหม แค่คิดตามก็น่าสนุกแล้ว ไม่รู้ว่าเหตุการณ์หลังจากนี้จะเป็นยังไง พวกเธอสามารถปกปิดความลับ และตามหาตัวคนร้ายเจอได้ไหม ต้องไปติดตามต่อกันเอาเองเด้อ 










20 30 40

เปย์เป้ว่าเพื่อน ๆ น่าจะรู้จักหนังแนว Coming of Age กันดีอยู่แล้ว แต่ใครจะไปเชื่อว่าหนังเรื่องเดียว จะทำให้เราได้ เรียนรู้และทำความเข้าใจคนได้ถึง 3 วัย  ซึ่งนั่นก็ได้แก่วัย 20 30 และ 40 อ้อ ต้องบอกก่อนว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังไต้หวันระดับตำนาน ที่ตอนนี้มีให้ชมกันใน Netflix ด้วย ถ้าอ่านเรื่องย่อแล้วชอบ ก็ลองไปหามาดูกันนะ

20 30 40 ได้ตีแผ่ชีวิตของหญิงสาวที่แตกต่างกัน 3 คน ได้แก่ หญิงสาววัยรุ่นผู้มาพร้อมกับความฝันอยากเป็นนักร้องในวัย 20 ปี, แอร์โฮสเตสวัย 30 และคุณแม่วัย 40 ที่เดินทางมาสนามบินเพื่อส่งลูกสาวไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ คือทุกตัวละครจะเชื่อมต่อกัน โดยมีสถานที่อย่างสนามบินเป็นตัวร้อยเรียงเรื่องราวของทั้งสามคนเข้าไว้ด้วยกัน  ซึ่งตัวละครทั้ง 3 คนนี้ก็ได้ถ่ายทอดชีวิตของคนแต่ละช่วงวัยได้ดี อย่างเด็กสาววัย 20 ก็มาพร้อมกับความฝันในการอยากเป็นโน่น เป็นนี่ กำลังก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ แอร์โฮสเตสวัย 30 ก็กำลังอยู่ในช่วงที่หน้าที่การงานมั่นคง ยังสนุกกับการใช้ชีวิต ลามไปจนถึงวัยที่โตเป็นแม่ แล้วต้องมีภาระหน้าที่อะไรหลากหลายอย่างให้ต้องจัดการและรับผิดชอบ อันนี้เปย์เป้ค่อนข้างจะแนะนำนะ เพราะนอกจากเนื้อหาจะดี มู้ดแอนด์โทนของหนังเรื่องนี้ยังแอบมีกลิ่นอายของความเป็นหว่อง กาไวเบา ๆ ด้วย










Still Alice

แปะป้ายเตือนไว้ก่อนเลยว่า หนังเรื่องนี้อาจจะบีบหัวใจคนดูอย่างเรา ด้วยการแสดงที่สมบูรณ์แบบของจูเลียน มัวร์  Still Alice ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตสุดแสนจะไร้ที่ติของ อลิส หญิงสาววัยกลางคน ที่จู่ ๆ ก็ได้เกิดแจ็กพอตพบว่าตัวเองเป็นโรคอัลไซเมอร์ชนิดเกิดเร็วตามกรรมพันธุ์ ซึ่งผลกระทบของโรคนี้ได้ส่งผลทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว อลิส ค่อย ๆ ลืมสิ่งรอบตัวทีละนิด แต่เธอกลับไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา จัดการเตรียมทุกอย่างเพื่อตั้งรับกับความทรงจำที่อาจจะหายไปแบบ 100% ในอนาคต (ฉากนี้เป้ดูแล้วก็แอบมีน้ำตาซึมเบา ๆ)

และนอกจากตัวละครของอลิสแล้ว ตัวละครคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัว รวมถึงบรรดาเพื่อนฝูงของเธอ ก็มีบทบาทไม่ใช่น้อย ทำให้คนดูอย่างเรานอกจากจะได้รับความรู้เกี่ยวกับโรคนี้แล้ว ยังอิ่มอกอิ่มใจไปกับความสัมพันธ์ของตัวละครทุกตัวเลยด้วย










Thirty-Nine

อะ สำหรับเรื่องนี้เปย์เป้ขอแถมให้ ถึงแม้ว่าตัวเอกของเรื่องจะไม่ได้เข้าข่ายวัย 40+  แต่ก็ใกล้จะ 40 แล้ว ดังนั้นเลยขอแถมมาให้อีกสักเรื่อง สำหรับ Thirty-Nine เรื่องนี้ได้แหกโค้งมาด้วยนักแสดงนำของเรื่องอย่าง ซนเยจิน ที่สาว ๆ หลายคนน่าจะอิจฉาตาร้อนกับความรักในชีวิตจริงของเธอกันอยู่ โดยซนเยจินพร้อมด้วยนักแสดงคนอื่น ๆ จะมาตีแผ่เรื่องราวของหญิงสาววัย 39 ทั้ง 3 คน ที่จะต้องมาเจอกับ บททดสอบชีวิต ในวัยที่อายุกำลังจะย่างเข้าเลข 4

โดยตัวละครแต่ละคน จะมีความแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน สภาพทางการเงิน รวมถึงความรัก ซึ่งตรงนี้เปย์เป้มองว่ามันเป็นข้อดีที่คนดูอย่างเราจะได้สัมผัสกับชีวิตในหลาย ๆ มุม ทำให้ซีรีส์มีเสน่ห์และน่าติดตาม ความฟีลกู้ดใดใดก็คือมีแน่นอน แค่เห็นการแสดงของซนเยจินก็น่าจะคุ้มค่าสำหรับคนดูอย่างเราแล้วเอาดี ๆ 



งานนี้ได้เวลานอนดูหนัง และซีรีส์กันให้ตาแฉะ ใครถนัดสายไหนก็เลือกดูกันได้ตามใจชอบเลย งานดราม่าหนัก ๆ ก็มี งานไร้สาระบ้า ๆ บอ ๆ ก็เพียบ แต่งานนี้บอกเลยว่านอกจากความบันเทิงที่เราจะได้กลับไปแล้ว ข้อคิดที่สอดแทรกไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน เราก็สามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตของตัวเองกันได้นะ