หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: จิบกาแฟ ปิ้งขนมปัง ชมวิวทะเลหมอกที่ยอด “ฆูนุงซีลีปัต”  (อ่าน 707 ครั้ง)

promotion

  • โจรสลัดจอมลุย / โคโนฮะกลุ่ม 7
  • *
  • กระทู้: 2359



ชมทะเลหมอกแดนใต้

ยะลา นราธิวาส ปัตตานี มีอะไร ? เคยคิดมานานมากแล้วว่าอยากเที่ยวภาคใต้แต่ด้วยเหตุผลต่างๆ นานาๆ ก็ยังไม่ได้คิดโครงการอะไรสักที จนกระทั่งเหมือนฟ้าเป็นใจมีคุณพี่ทักมาว่า “น้องไปเดินฆูนุงซีลีปัตกันไหม” ก็งงไปสักพักว่าคืออะไร จนกระทั่งได้ไปเปิด google หาข้อมูล

ฆูนุงซีลีปัต อยู่ที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เป็นสถานที่ชมทะเลหมอก ! ทุกท่านอ่านไม่ผิดหรอกฮะ “ทะเลหมอกที่ภาคใต้” แถมสถานที่แห่งนี้จัดว่ามีโปรโมชั่นชมทะเลหมอกได้ถึง 360 องศาไปอี๊กก โดยระยะทางที่ต้องเดินนั้นก็ไม่ได้ยาวไกล และก็ไม่ได้ยากลำบากมากนัก สำหรับจุดชมทะเลหมอกนั้นยอดสูงสุดอยู่ที่ 607 เมตรจากระดับน้ำทะเล อยู่ห่างจากเมืองเบตงไป 21 กิโลเมตรเอง  เฮ้ยน่าสนใจอยู่น๊าาาาาาาา   






ทะเลหมอกแดนใต้ และป่าที่มีความสมบูรณ์


คณะของเปย์เป้ติดต่อไกด์นำเที่ยวไปเป็นเพจ facebook เพื่อขอข้อมูลการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และการเตรียมตัวต่างๆ ก็ต้องรอสักพักกว่าแอดมินจะตอบกลับมา ระหว่างรอก็เปิดดูเพจไปพลางๆ ก่อน เลื่อนดูรูปไปเรื่อยๆ ก็พบว่าสวยมาก ชอบ เดินไม่ยาก ตอบตกลงเดินที่นี่เลย ซึ่งพอแอดมินเพจตอบกลับมาก็สรุปในส่วนของค่าใช้จ่าย ได้ว่า


ค่าไกด์นำนาง
ค่ารถพาขึ้นไปจุดเดินขึ้น
ค่าอาหาร 2 มื้อ / เย็น = ไก่ปิ้ง ลูกชิ้นปิ้ง / เช้า = ขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ
ค่าเต็นท์ - ชุดเครื่องนอนไม่มีให้ ต้องเช่า ชุดละ 40 บาท



รวมทั้งหมด 900 บาท / คน และอาหารแต่ละวันไม่เหมือนกันนะฮะ แต่ถ้าเราจะเอามาม่าหรืออะไรก็เอาไปได้เลย เพราะไกด์จะมีต้มน้ำร้อนให้จ้าา



(ปล. ค่าใช้จ่ายอาจมีขึ้นหรือลง ในบทความนี้เปย์เป้อิงค่าใช้จ่าย ณ ตอนที่คณะเปย์เป้ไปเดินมาน้าาา)





ฆูนุงซีลีปัต Calling
นั่งชมทะเลหมอกยามเช้า
พร้อมจิบกาแฟอุ่นๆ



เปย์เป้และเพื่อนๆ แวะนอนพักที่ปัตตานีก่อน 1 คืน เพื่อเก็บพลัง พอตอนเช้าตรู่ก็เดินทางไปยะลาทันที จากที่ทำการบ้านมาคือเราต้องหาข้าวเที่ยงกินเอง เพราะคณะไกด์จะมีแค่ข้าวเย็นให้เราเท่านั้น หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ เราก็แวะซื้อของจำเป็นเล็กๆ น้อยๆ จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังเบตง จังหวัดยะลากันต่อฮะ

ระหว่างทางต้องบอกว่าอากาศเย็นสดชื่น มี promotion จากฟ้าโปรยฝนพร่ำๆมาเป็นระยะ ถนนหนทางก็ดีขับสะดวก ผู้คนก็อัธยาศัยดีมาก ใจดี ยิ้มแย้ม ช่วยเหลือบอกทางพวกเราดีมาก แต่ที่ประทับใจเปย์เป้สุดๆ ก็คือ ธรรมชาติเขียวไปตลอดทางเลยจ้าา เช้าๆ 7 โมงคือมีหมอกตามยอดเขาเล็กๆ ข้างทางด้วย ประทับใจมากแม่อยากจะตะโกนดังๆว่า “จังหวัดยะลา ธรรมชาติที่ยังคงสมบูรณ์อยู่เสมออออ”







เริ่มต้นด้วยรถโฟร์วิล และเดินต่อไปด้วยเท้าเปล่า

หลังจากที่เรามาถึงจุดนัดพร้อมเพื่อนร่วมทริปคนอื่นๆ เราก็ซื้อเสื้อกันฝนก่อนเลยเพราะฝนตก ในการเดินครั้งนี้จะมีโปรรถโฟร์วิลพาไปส่งที่จุดเดินก่อน แล้วถึงเดินเท้าเปล่าต่อกันเอง เมื่อถึงเวลาคณะไกด์ของเราก็เรียกขึ้นรถ วันนั้นมีหลายกรุ๊ปอยู่ พอใส่เสื้อกันฝนแล้วเหมือนลูกกวาดเลย สีสันสดใสมาก ระหว่างที่ยืนบนรถโฟร์วิลก็เรียกได้ว่าสนุกมาก วี๊ดว๊ายกันตลอดทาง เพราะทางค่อนข้างลื่นและระยะก็ชิดหน้าผามาก สร้างความตื่นเต้นแบบสุดๆ แต่ก็ผ่านมาได้สบายมากจ้า









เริ่มเดินเท้าเปล่ากันเถอะ

เมื่อถึงจุดเดินเท้าเปล่าก็ลงจากรถ ได้เวลาแบกเป้กันแล้วจ้า ฝนยังคงตกอยู่แต่ไม่มีใครท้อ ไปฮะลุย ทางที่เดินครั้งนี้ก็เป็นทางราบซะ 80 % แต่ด้วยฝนตกก็จะแฉะๆ หน่อย ก็แอบเห็นคนลื่นบ้าง เปย์เป้ก็ด้วย ระหว่างทางก็จะเป็นป่าแล้วก็มีสวนยางของชาวบ้านด้วยนะฮะ ปลูกกันเป็นแนวไปตามทางขึ้นเขาเลย









ฝนยังคงตกไปตลอดทาง

ใช่ฮะฝนตกไปตลอดการเดินจริงๆ เสื้อกันฝนโดนกิ่งไม้เกี่ยวขาดไปแล้วตั้งแต่บนรถ ก็เลยเอาไว้แค่คลุมกระเป๋าอย่างเดียว ขากลับค่อยเอาไปทิ้งข้างล่าง แน่นอนว่าพอฝนตกทางเดินก็แฉะถึงแฉะมาก และเริ่มเป็นโคลน เริ่มมีน้ำขังเป็นหย่อมๆ แต่ก็ไม่มีใครท้อหรือบ่นอะไร ทุกคนดูสนุกสนานหัวเราะกันไปตลอดทาง เราเดินกันไม่พักเลย แต่ด้วยอากาศไม่ร้อนเลยสบายมาก









ทุกการเดินทางจะมีจุดยากง่ายสลับกันไป

แน่นอนว่าฝนตกตลอดทางแบบนี้ส่งผลให้ทางลื่นจ้าา ตลอดทางก็จะมีจุดที่เดินยากบ้างง่ายบ้าง จุดที่เปย์เป้คิดว่ายากที่สุดของทริปนี้ คือ เนิน เนินชันที่จัด promotions ให้กับทางคณะชันขนาดเกือบจะ 45 องศากับพื้นโลก และที่สำคัญ คือ แฉะ พอแฉะก็ลื่นแล้วเนินนี้นะเดิน 10 คนก็ลื่นไปแล้ว 8 คน คนที่ไม่ลื่นคือคณะไกด์นั้นเอง ระหว่างตะเกียกตะกายขึ้นเนินก็มีความคิดในหัวขึ้นมาว่า “นี่สินะนะ …. ชีวิต” ยากง่ายสลับกันไป









ถึงแล้วที่พัก ที่หลับ ที่นอน

พอผ่านจุดที่ยาก ลื่นบ้าง เข่าเคล็ดบ้าง สักพักก็มาถึงที่พักที่คณะไกด์เตรียมไว้ให้ ลักษณะก็จะเป็นเต็นท์และมีเพิงค่อมเต็นท์ไว้อีกทีสำหรับกันฝน ก็เรียกว่าไม่เลวเลยไม่ต้องกังวลเรื่องฝน ไกด์ก็จัดแจงบ้านให้เราตามขนาดเต็นท์  1 คน / 1 หลังบ้าง  2 คน / 1 หลังบ้าง  3 คน / 1 หลังก็มี แต่เต็นท์ก็คือใหญ่มาก นอนไม่เบียดกันเลย น้ำก็ไม่มีรั่วซึม









หมอกจางๆ หรือควัน คล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้

พอเก็บกระเป๋าเสร็จ เพื่อนสกิดเบาๆ ถามว่า “นี่หมอกหรือควันวะ ?” คือเป็นหมอกจริงๆ หมอกลงแบบขาวโพลนคลุมทั้งพื้นที่เลย มองอะไรไม่เห็นเลยแม่ น่าตื่นเต้นดีจัง เราขึ้นมาไม่ได้สูงมากนะ แต่หมอกก็ลงจัดขนาดนี้ นึกว่ามีแต่ที่ทางภาคเหนือด้วยซ้ำ ไกด์บอกว่าพรุ่งนี้ถ้าไม่ผิดพลาดจะได้เห็นทะเลหมอกที่สวยกว่านี้อีก





Gica Antigen Test Cassette ATK ชุดตรวจ 2in1
[ตรวจได้ทั้ง น้ำลาย/แยงจมูก] ชุดล่ะ 70 บาท
ยก 10 SET คลิ๊กเลย!!
V
V
V





จำนวนจำกัด..พกติดไว้เที่ยวไหนก็สบายใจ









ตื่นเช้ามารอดูทะเลหมอก

หลังจากอิ่มหนำสำราญกับอาหารที่ไกด์เตรียมไว้ให้ และมีแจกลูกชิ้นปิ้งพร้อมเตาให้บริการตัวเอง ปิ้งเองกินเองไปเล้ยย เท่านั้นยังไม่พอก่อนนอนก็ซดโอวัลตินร้อนไปอีก พอตอนเช้าเกือบๆ 6 โมง ผู้คนก็เริ่มเตรียมตัวออกไปชมทะเลหมอก ด้วยตอนเช้าหมอกก็ลงขาวโพลนการเดินขึ้นไปดูหมอกก็ต้องใช้ความระมัดระวังกันหน่อย เพราะหินก็ค่อนข้างจะลื่น แต่คุณไกด์นั้นก็เดินแซงเปย์เป้ไปแบบชิลๆ ยังหันมาถามด้วยความห่วงใยว่าเดินได้ไหม ถือกล้องให้ไหม โอเคฮะ ฝากกล้องไปด้วยเจอกันข้างบนนะฮะ









ขนมปังปิ้งกับกาแฟร้อนๆ พร้อมวิว 360 องศา

พอขึ้นมาถึง สิ่งแรกที่เห็นคือคณะไกด์แบกขนมปังปิ้งและกาแฟขึ้นมาแล้ว ขึ้นมาก่อน ขึ้นมาตอนไหนกันค้าบบ เราก็ตรงไปต่อแถวเลยจ้า ไกด์ถามว่าเอาขนมปังกี่แผ่น เอากาแฟรสอะไร มีรสให้เลือกด้วยจ้าาา จัดเอสเปรสโซ่มาหลายแก้วเลย ผู้คนก็กระจายตัวไปรอบๆ เพื่อนั่งกินอาหารเช้าและหาจับจองพื้นที่เพื่อรอชมทะเลหมอก บางคนก็หามุมเพื่อถ่ายรูปกับเพื่อนๆ เปย์เป้ก็ยังคงซัดกาแฟและขนมปังปิ้งไม่หยุด ช่างเป็นมื้อเช้าที่วิวดี อากาศเย็นสบายจริงๆ ออกมาเถอะนะทะเลหมอกเปย์เป้มาหาแล้วนะพี่ทะเลหมอก





อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม คลิ๊กเลย >>> ฆูนุงซีลีปัต








ยามฟ้าเปิด ทะเลหมอกก็มา

หลังจากที่นั่งรอสักพัก ไกด์ก็บอกว่าฟ้าเปิดแล้วเดี๋ยวทะเลหมอกจะออกมา และสุดท้ายทะเลหมอกก็มาจริงๆ ยกกล้องเลยจ้า แต่ได้ยินไกด์บ่นงึมงัมๆ ว่าทำไมมีแค่นี้ คณะเมื่อวานมีตั้งเยอะ ! เปย์เป้ก็เลยได้รู้ว่าจริงๆ มันจะชัดกว่านี้ สวยกว่านี้ จากที่คุยกับไกด์เขาบอกว่าตั้งแต่จัดทัวร์มามีแค่ 5 % เท่านั้นที่เป็นแบบนี้ คงเป็นเพราะเมื่อวานฝนตกไม่หยุด กลางคืนก็ยังตก ตกยันเกือบเช้าแน่ๆ









ตอนนั้นก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย อยากจะเห็นเยอะๆแบบในรีวิว ไกด์เองก็เซ็งๆ อยากให้ทุกคนได้เห็นแบบเต็มๆ ก็นั่งรอกันจน 9 โมง ฟ้าก็ยังไม่เปิดอีกรอบ จนไกด์ประกาศว่า วันนี้คงได้เท่านี้ให้ทุกคนทยอยลงไปเก็บกระเป๋า แล้วเดินลงไปตรงจุดที่รถโฟร์วิลส่งเมื่อวาน






เดินกลับแดดออกฟ้าใสแจ๋ว
 
ทุกคนเดินเรียงแถวกันไปตามทางเพื่อกลับไปจุดที่รถโฟร์วิลรอรับ ระหว่างทางคือฟ้าใส แดดออก เหมือนเมื่อวานฝนไม่ได้ตก ระหว่างทางก็ได้ฟังเสียงนก เสียงน้ำตก เรียกว่าเพลิดเพลินดีมาก แต่เปย์เป้ก็ยังคงคอนเช็ปเดิมคือ  “ลื่น” เนินเดิม จุดเดิม เพิ่มเติมคือมีคนลื่นด้วยเป็นประสบการณ์ที่สนุกมาก


ออกไปเดินป่าเดินเขาเปิดโอกาสร่างกายได้
 “ ใกล้ชิดธรรมชาติ ”



ระหว่างเดินเท้ากลับก็ได้ยินเสียงนก เสียงน้ำไหล เสียงลมเพลินๆ เปย์เป้ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปด้วย ถามว่าผิดหวังมากไหม ก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวังขนาดนั้น อาจจะเพราะเราก็ดื่มด่ำกับทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างทางมาหมดแล้ว อีกทั้งทุกคนต่างรู้ว่าธรรมชาติอยู่เหนือการควบคุมทั้งปวง เราก็แค่สนุกกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็พอ แต่ทริปนี้ก็ช่วยให้เปย์เป้ได้ผ่อนคลายร่างกาย ความคิด อารมณ์ ได้เสียเหงื่อไปกับการออกกำลัง เดินขึ้นเดินลง ได้หยุดคิดพวกเรื่องเครียดๆ หันมาโฟกัสทางเดิน วิวข้างทาง ได้สัมผัสอากาศเย็นๆ หายใจเต็มปอด เรียกว่า “ธรรมชาติบำบัด” จริงๆฮะ

ท้ายนี้ใครที่อยากจะลองไปชมทะเลหมอกที่ฆูนุงซีลีปัต เบตง จังหวัดยะลา ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง ข่าวล่ามาไวล่าสุด หากไม่มีอะไรผิดพลาดสนามบินเบตงเตรียมจะเปิดทำการแล้ววันที่ 28 ก.พ. 2565 ใครสนใจก็หาเวลามาพิชิตทะเลหมอกที่ฆูนุงซีลีปัตได้เลยจ้า


สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลการพิชิตทะเลหมอก รวมทั้งค่าใช้จ่ายล่าสุด ก็สามารถติดต่อไปที่ เพจ facebook ของคณะไกด์ได้เลยนะฮะ อาจจะตอบช้าหน่อยแต่ตอบแน่นอน


Link เพจ : ฆูนุงซีลีปัต - ฆูนุงซาลี Gunungsilipat