หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: ซื้อบ้านต้องอ่าน! ค่าใช้จ่ายที่ควรรู้และต้องเตรียมไว้ เมื่อคุณคิดว่ากำลังจะซื้อบ  (อ่าน 1142 ครั้ง)

promotion

  • โจรสลัดจอมลุย / โคโนฮะกลุ่ม 7
  • *
  • กระทู้: 2359



จะซื้อบ้านก็ไม่ได้มีแค่ค่าบ้านเท่านั้นที่ต้องเราจ่าย
แต่ยังมีค่าใช้จ่ายจิปาถะอีกหลายอย่างที่คนจะซื้อบ้านต้องรู้ไว้
ใครกำลังคิดจะซื้อบ้านหลังแรกต้องอ่าน!


ในการตัดสินใจจะซื้อบ้านซักหลังหนึ่ง นอกจากเงินจอง เงินดาวน์แล้วก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เราต้องเตรียมเงินไว้เผื่อด้วย สำหรับคนที่กำลังจะซื้อบ้านหลังแรกก็อาจจะคาดไม่ถึงว่าจะมีค่าใช้จ่ายตรงอื่นๆ เพิ่มมา จึงไม่ได้เตรียมเงินสำรองเอาไว้และหาเงินไม่ทัน จนอาจทำให้บ้านที่เลือกไว้หลุดมือไปได้ เพราะฉะนั้นใครที่คิดจะซื้อบ้าน โดยเฉพาะคนที่ซื้อบ้านต้องอ่านด่วนเลย~





ค่าจองบ้าน

หลังจากที่เราเจอบ้านหรือเจอโครงการบ้านที่ถูกใจแล้ว เงินส่วนแรกที่เราต้องจ่ายก็คือเงินจองบ้านนั่นเอง หรือจะเรียกว่าเป็นเงินมัดจำก็ได้ จ่ายเพื่อจองแปลงบ้านหรือบ้านเลขที่เราชอบเอาไว้ก่อน ส่วนใหญ่เงินจองบ้านจะเริ่มต้นตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ซึ่งทั้งนี้จำนวนเงินจองจะขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการกำหนดด้วย เมื่อเราจ่ายเงินจองแล้วโครงการจะออกใบเสร็จเงินค่าจองให้กับเรา เพื่อนำไปเป็นเอกสารประกอบการยื่นกู้สินเชื่อบ้านต่อไปนั่นเอง


• จองไปแล้ว กู้ไม่ผ่าน จะได้เงินจองคืนมั้ย?

ขึ้นอยู่กับโครงการด้วยว่ากำหนดเงื่อนไขการจ่ายเงินจองบ้านไว้อย่างไร แต่โครงการส่วนใหญ่ ในกรณีที่ลูกค้ากู้ไม่ผ่านก็มักจะคืนเงินจองให้  ทั้งนี้
พี่ โปรโมชั่น ว่าก่อนที่จะทำวางเงินจองบ้านควรสอบถามเซลหรือผู้ขายให้ชัดเจนก่อนด้วยว่าถ้ากู้ไม่ผ่านเราจะได้เงินจองคืนแน่นอน



เงินดาวน์

จะซื้อบ้านก็ต้องมีเงินดาวน์นะ แต่ไม่ใช่การจ่ายก้อนเดียวแบบการดาวน์รถ เงินดาวน์บ้านจะอยู่ที่ประมาณ 5-10% ของราคาบ้าน แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าบ้านที่จะซื้อเป็นบ้านพร้อมโอน พร้อมเข้าอยู่หรือเป็นบ้านที่อยู่ในระหว่างการสร้าง

• ถ้าซื้อบ้านแบบพร้อมโอนหรือบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว

ในกรณีนี้ไม่ต้องวางเงินดาวน์ สามารถยื่นกู้ได้เลยและรอผลอนุมัติจากธนาคาร ถ้าหากธนาคารอนุมัติก็สามารถดำเนินเรื่องโอนกรรมสิทธิ์และเริ่มผ่อนบ้านงวดแรกตามที่ธนาคารกำหนดได้เลย



• ถ้าซื้อบ้านที่ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการสร้าง

โครงการจะให้เราจ่ายเงินดาวน์ก่อน โดยเงินดาวน์จะอยู่ประมาณ 5 - 10% ของราคาบ้าน โดยสามารถผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ ได้ จนกว่าบ้านจะสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์






ค่าประเมินบ้าน

เงินส่วนนี้เป็นค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับธนาคารที่เรายื่นเรื่องขอสินเชื่อบ้านไป โดยก่อนที่จะอนุมัติสินเชื่อธนาคารจะเข้ามาทำการประเมินบ้านที่เราจะซื้อก่อนว่าราคาสมเหตุสมผลกับจำนวนเงินที่เราขอยื่นกู้ไปหรือไม่

ส่วนใหญ่ถ้าหากเราซื้อบ้านกับโครงการบ้านจัดสรรและให้โครงการยื่นกู้ให้ อาจจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้ เพราะทางโครงการจะยื่นให้กับธนาคารที่เป็นพันธมิตรกันอยู่แล้ว ธนาคารเหล่านั้นก็จะมีข้อมูลของราคาหลักทรัพย์อยู่ในมือแล้วนั่นเอง

แต่ถ้าหากเรายื่นกู้เองกับธนาคารโดยตรงหรือยื่นเพื่อกู้ซื้อบ้านมือสอง เราอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้เพิ่ม ยิ่งยื่นกู้หลายธนาคารก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมประเมินบ้านมากขึ้นตามไปด้วย ค่าธรรมเนียมในการประเมินบ้านก็ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารกำหนด



ค่าโอนกรรมสิทธิ์

เป็นค่าธรรมเนียมที่เราต้องจ่ายให้กับกรมที่ดินในวันที่เข้าไปทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์บ้านให้เป็นชื่อเรา ซึ่งจะคิดเป็นของ 2% ของราคาบ้าน เช่น บ้านราคา 1,000,000 บาท เราต้องจ่ายค่าโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 20,000 บาท แต่ส่วนใหญ่แล้วค่าโอนบ้าน ทั้งเราและโครงการอาจต้องจ่ายร่วมกันคนละครึ่งหรือแล้วแต่โครงการกับลูกค้าจะตกลงกัน ในบางโครงการก็มีpromotion 'ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน' ด้วย คือโครงการบ้านที่เราซื้อจะเป็นผู้รับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายค่าโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดนั่นเอง

แต่ถ้าซื้อบ้านภายในปี 2563 บ้านที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะจ่ายค่าโอนเพียง 0.01% เท่านั้น เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอสังริมทรัพย์ของรัฐบาลนั่นเอง



ค่าจดจำนอง

เป็นอีกค่าใช้จ่ายที่คนกู้ซื้อบ้านต้องเตรียมไว้เช่นเดียวกัน โดยค่าจดจำนองจะคิดเป็น 1% ของราคาบ้าน เราต้องจ่ายให้กับกรมที่ดินและจ่ายพร้อมกับค่าโอนในวันที่เราไปโอนกรรมสิทธิ์นั่นเอง แต่ในตลอดปี 2563 นี้ สำหรับคนที่ซื้อบ้านหลังแรกในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะจ่ายค่าจดจำนองในราคาที่ถูกลง จาก 1% จะเหลือเพียง 0.01% ของราคาบ้านเท่านั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอสังหาฯ ของรัฐบาล

สำหรับบ้านราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป ยังต้องจ่ายค่าจดจำนองในอัตรา 1% เหมือนเดิม ถ้าหากซื้อบ้านด้วยเงินสด ไม่ต้องจ่ายค่าจดจำนอง ข้ามค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้เลย






ค่าประกันภัยคุ้มครองบ้าน

เป็นอีกค่าใช้จ่ายหลายๆ คนไม่คาดคิดและมองข้ามไป ในการกู้ซื้อบ้านธนาคารมักจะให้เราสมัครประกันภัยชีวิตคุ้มครองบ้านพ่วงไปด้วย จะคุ้มครองเมื่อตัวผู้กู้ซื้อบ้านเกิดอุบัติเหตุจนพิการหรือเสียชีวิต ธนาคารจะนำวงเงินคุ้มครองนั้นมาโปะค่าบ้านทันที ทำให้เงินต้นลดลง จำนวนค่างวดที่ต้องจ่ายก็น้อยลงไปด้วย หรือบางกรณีเหลือเงินต้นไม่มากแล้ว ก็สามารถโปะปิดยอดหนี้ได้เลย ทำให้คนข้างหลังไม่ต้องมารับภาระต่อนั่นเอง

สำหรับการชำระค่าเบี้ยประกัน จะถูกคิดคำนวนรวมกับค่างวดบ้านแล้วเรียบร้อย ส่วนวงเงินและระยะการคุ้มครองก็ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารด้วย



ค่าจดมิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟ

หรือที่เรียกกันว่าค่าประกันมิเตอร์ โดยจะจ่ายเพียงครั้งเดียวตอนที่เราไปยื่นเรื่องขอใช้ไฟฟ้าและน้ำประปานั่นเอง แต่ละบ้านก็จะจ่ายไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับขนาดของมิเตอร์และมาตรวัด ถ้ายิ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ก็จะต้องใช้ขนาดมิเตอร์และมาตรวัดที่มากขึ้น จึงเสียค่าประกันมากขึ้นนั่นเอง



ค่าธรรมเนียมการจดมิเตอร์ไฟฟ้า





ค่าธรรมเนียมการจดมิเตอร์น้ำประปา




ค่าใช้จ่ายอื่นๆ



ค่าส่วนกลาง

แน่นอนว่าถ้าเราเลือกซื้อบ้านกับโครงการบ้านจัดสรร ค่าส่วนกลางจึงเป็นค่าใช้จ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย การคำนวนค่าส่วนกลางขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการกำหนด แต่ส่วนใหญ่มักจะคำนวนจากพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดของแต่ละบ้าน และจะเรียกเก็บเป็นรายปี ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จ่ายเพื่อเป็นค่าบำรุงรักษาสภาพแวดล้อมภายในหมู่บ้าน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ  รวมไปถึงค่าจ้างพนักงาน เช่น พนักงานรักษาความปลอดภัย เป็นต้น

ในปัจจุบันหลายๆ โครงการที่เปิดใหม่มี
โปร 'ฟรีค่าส่วนกลาง' อย่างมากสุดที่เราเคยเห็นคือฟรีนานถึง 3 ปี แต่บางโครงการก็เรียกเก็บทันทีล่วงหน้า 1-2 ปี แต่ก็จะให้โปรโมชั่นอื่นๆ มาเป็นการทดแทน





ค่าต่อเติม / ตกแต่ง

ความสนุกของการซื้อบ้านใหม่คือได้แต่งบ้านในแบบที่เราใฝ่ฝัน รวมถึงซื้อเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เข้าบ้านใหม่ บอกเลยว่าค่าใช้จ่ายในการตกแต่งต่อเติมบ้าน ทำเอางบประมาณซื้อบ้านของหลายคนบานปลายมาแล้ว ต่อนู้นเติมนี่จนเพลินรู้ตัวอีกทีคือเกินงบที่ตั้งไว้ไปมาก เพราะฉะนั้นใครกำลังคิดว่าจะซื้อบ้านใหม่ อย่าลืมตั้งงบประมาณตรงนี้เอาไว้ด้วยนะ

ในการซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือซื้อของเข้าบ้าน ถ้าพอมีเวลาเราแนะนำให้ไปเลือกดูสินค้าจริงจากหลายร้านๆ แล้วนำราคามาเปรียบเทียบว่าเจ้าไหนราคาถูกกว่ากัน ถ้าซื้อออนไลน์มีโปรคุ้มกว่ามั้ย ก็จะช่วยให้เราควบคุมงบประมาณตรงนี้ได้อีกทางหนึ่งด้วย




ปันโปรสรุปให้

• ในการซื้อบ้านเราแนะนำให้มีเงินสำรองเผื่อไว้สำหรับค่าใช้จ่ายข้างต้นแล้ว อาจจะต้องมีเงินก้อนเผื่อซักประมาณ 10-15% ของราคาบ้านไว้ด้วย ในกรณีที่อาจกู้ได้ไม่เต็มจำนวนบ้าน แต่ถ้าหากกู้ได้เต็มจำนวน ก็ปัดเงินก้อนที่เตรียมไว้ไปเป็นค่าต่อเติมหรือตกแต่งได้

• บางค่าใช้จ่ายทางโครงการบ้านจัดสรรก็จัดเป็นโปรโมชั่นออกค่าใช้จ่ายให้โดยที่เราไม่ต้องจ่ายเอง เช่น ค่าใช้จ่ายวันโอน, ค่าจดจำนอง เป็นต้น อย่าลืมสอบถามรายละเอียดจากเซลดีๆ ก่อนทำการจองกันด้วยนะ

•  สำหรับใครที่จะยื่นกู้บ้าน แนะนำให้ยื่นผ่านโครงการเลยจะสะดวกกว่า เพราะบางธนาคารมี Fast Track ให้สำหรับคนที่ยื่นกับโครงการ จะช่วยให้เรารู้ผลการอนุมัติเร็วขึ้น และยังไม่ต้องเสียค่าตรวจประเมินบ้านด้วย